ขณะที่การสวมหน้ากากยังมีความสำคัญและจำเป็นอยู่เพื่อลดความเสี่ยงของทั้งการแพร่และรับเชื้อโควิด 19 นั้น ยังมีคนไม่น้อยที่ไม่ยอมใช้หน้ากากด้วยเหตุผลข้ออ้างต่างๆ กัน
และขณะนี้มีบริษัทรวมทั้งสถาบันหลายแห่งที่พัฒนานวัตกรรมใหม่เกี่ยวกับหน้ากาก ซึ่งพยายามตอบโจทย์และแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งในแง่การหาซื้อได้ยากในท้องตลาดและราคาแพง การปิดกั้นการแสดงออกซึ่งตัวตน ความไม่สะดวกของการใช้เมื่อดื่มของเหลว และการช่วยแปลภาษา เป็นต้น
1. iMasc - ขณะที่หน้ากาก N 95 ยังหายากและมีราคาแพงในสหรัฐฯ โดยมีราคาเฉลี่ยชิ้นละ 7 ดอลลาร์ หรือ 210 บาท มิหนำซ้ำผู้ขาย อย่างเช่น Amazon ก็ไม่ยอมขายให้กับผู้ซื้อที่ไม่ใช่หน่วยงานด้านสาธารณสุขนั้น นักวิจัยและวิศวกรของสถาบัน MIT ร่วมกับโรงพยาบาล Brigham and Women ได้พัฒนาหน้ากากต้นแบบที่อาจใช้แทนหน้ากาก N 95 ได้
จุดเด่นของหน้ากากที่เรียกว่า iMASC นี้คือ ทำจากซิลิโคนใสและมีช่องกรองอากาศสองช่องที่ด้านล่างเพื่อใส่ไส้กรอง N 95 ขนาดเล็กซึ่งเปลี่ยนได้ ข้อดีก็คือหน้ากากนี้ใช้วัสดุ N 95 น้อยกว่า เนื่องจากมุ่งเฉพาะส่วนที่เป็นไส้กรองเท่านั้น แถมตัวหน้ากากยังสามารถทำความสะอาดได้หลายรูปแบบเพื่อนำมาใช้ใหม่ เช่น อบด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ใช้ความร้อน หรือแช่ในสารฟอกขาวและแอลกอฮอล์ เป็นต้น
หากพัฒนาได้สำเร็จ คาดว่าราคาจะอยู่ที่ราวชิ้นละ 15 ดอลลาร์หรือประมาณ 450 บาท
2. LEAF - บริษัท Redcliffe Healthcare ในรัฐมิชิแกน พัฒนาหน้ากากที่จะช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถแสดงตัวตนได้มากขึ้น เพราะเป็นหน้ากากที่ใช้วัสดุโปร่งใสทั้งชิ้น
หน้ากากที่มีชื่อว่า LEAF นี้ ใช้สารซึ่งย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ แถมยังมีโทนสีหลายสีให้เลือกเข้ากับสีผิว นอกจากนั้นยังมีไส้กรองเกรด HEPA ซึ่งช่วยลดกลิ่นและกรองอนุภาคขนาดเล็กในอากาศด้วย โดยวัสดุที่ใช้ก็มีคุณสมบัติต่อต้านการจับตัวของไอน้ำและสามารถทำความสะอาดตัวเองได้ รวมทั้งใช้งานได้นานถึงหนึ่งเดือน
แต่จุดเด่นสำคัญที่สุดของหน้ากาก LEAF คือการใช้วัสดุใสซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้แสดงอารมณ์และตัวตน รวมทั้งยังสามารถส่งยิ้มทักทายได้เหมือนเดิม
ราคาของหน้ากาก LEAF ซึ่งมีให้เลือกสี่แบบขณะนี้เริ่มต้นที่ชิ้นละ 49 ดอลลาร์ หรือราว 500 บาท
3. Redee Mask - มีลักษณะพิเศษที่ช่วยแก้ปัญหา pain point ของผู้ใช้ คือมีแผ่นปิดบนหน้ากากอีกหนึ่งชั้น และในเวลาที่ต้องการดื่มเครื่องดื่มหรือของเหลว ผู้ใช้จะเปิดฝานี้เพื่อสอดหลอดดูดเข้าไปข้างใต้ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่จำเป็นต้องถอดหรือขยับหน้ากากลงไปที่ระดับคางหรือคอ
คาดว่าหน้ากาก Redee Mask ซึ่งมีขายแล้วขณะนี้ในราคาชิ้นละ 25 ดอลลาร์ หรือประมาณ 750 บาท จะเป็นที่นิยมในบรรดาบุคลากรผู้ต้องสวมหน้ากากทั้งวันเพื่อให้สามารถดื่มเครื่องดื่มได้อย่างปลอดภัยและสบายใจ โดยไม่ต้องขยับหรือถอดหน้ากากนั่นเอง
4. C-Mask - ของบริษัท Donut Robotics ของญี่ปุ่น ซึ่งสามารถแปลภาษาหรือแปลงเสียงเป็นข้อความได้แปดภาษาด้วยกัน เพราะทางบริษัทเห็นปัญหาว่า การสวมหน้ากากนั้นทำให้การสื่อสารด้วยเสียงค่อนข้างจะเข้าใจได้ยาก ส่วนการอ่านริมฝีปากเพื่อช่วยให้เข้าใจก็ทำไม่ได้เช่นกัน ทางบริษัทจึงออกแบบหน้ากากอัจฉริยะช่วยแปลภาษาและแปลงเสียงเป็นข้อความ เพื่อแก้ปัญหาสำหรับผู้เดินทางโดยเฉพาะ
หน้ากากดังกล่าวจะเชื่อมต่อกับแอพในโทรศัพท์มือถือผ่านทางบลูทูธที่ช่วยการแปลภาษา ตอนนี้ทางบริษัทมีผลิตภัณฑ์ขายในญี่ปุ่นอยู่แล้ว และมีแผนจะส่งหน้ากาก C-Mask นี้ไปขายในยุโรป สหรัฐฯ และจีนต่อไป