สหรัฐฯเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ไม่มีกฏหมายบังคับสวัสดิการลาคลอดลูกแบบได้รับเงินเดือน

US Paid Sick Leave

คุณ Jenny Cheek อาศัยอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ตอนที่เริ่มตั้งครรภ์ลูกคนแรก เธอตกใจเมื่อพบว่าไม่มีสิทธิ์ลาคลอดลูกแบบได้รับเงินเดือนแม้ว่าตนจะทำงานในหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐก็ตาม

กฏหมายของสหรัฐอนุญาตให้พนักงานชายและหญิงใช้สิทธิ์ขอลาคลอดลูกโดยไม่ได้รับค่าจ้างได้นานที่สุดที่ 12 สัปดาห์ กฏหมายสหรัฐไม่บังคับว่าบริษัทเอกชนต้องจ่ายเงินเดือนแก่พนักงานในช่วงลาคลอดลูก แต่มีบางบริษัทที่เสนอสวัสดิการนี้แก่พนักงานด้วยความสมัครใจและกฏหมายไม่บังคับเรื่องการลาป่วยแบบได้รับเงินเดือน ดังนั้นชาวอเมริกัน 43 ล้านคนจึงไม่มีสิทธิ์ลาป่วยแบบได้รับค่าจ้าง

นี่ทำให้คุณ Jenny Cheek ต้องใช้สิทธิ์ลาพักร้อนนานหนึ่งสัปดาห์แล้วขอลาคลอดแบบไม่ได้รับเงินดือน แต่หลังจากนั้นเธอและสามีตัดสินใจให้เธอลาออกจากงานเพื่ออยู่บ้านดูแลลูกน้อย

ในช่วงการกล่าวสุนทรพจน์ประจำปีที่ผ่านมาในเดือนมกราคม ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า กล่าวสนับสนุนสวัสดิการลาป่วยกับลาคลอดลูกแบบได้เงินเดือนและเรียกร้องให้วุฒิสภาสหรัฐเร่งอนุมัติร่างกฏหมายที่เกี่ยวข้อง ผู้นำสหรัฐกล่าวเร่งเร้าวุฒิสภาสหรัฐให้ผ่านร่างกฏหมายนี้เพื่อให้สิทธิ์ในการลาป่วย 7 วันแบบได้รับเงินเดือนแก่คนทำงานทุกคนในอเมริกาเพราะนี่เป็นสิ่งถูกต้องที่สมควรทำ

ด้านนาง Carolyn Maloney สมาชิกรัฐสภาจากพรรคเดโมเครตจากนิวยอร์คเป็นผู้เสนอร่างกฏหมายที่อนุญาติให้พนักงานรัฐบาลสามารถลาคลอดลูกแบบได้รับเงินเดือนนาน 6 สัปดาห์ โดยเสนอร่างกฏหมายนี้มานานหลายปีแล้ว เธอกล่าวว่าร่างกฏหมายนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องเพราะมีประเทศอื่นๆ ทั่วโลกตั้ง 183 ประเทศที่ให้สิทธิ์นี้แก่ประชาชน

คุณ Jenny Cheek กล่าวว่าร่างกฏหมายนี้จะเป็นประโยชน์แก่เธอและคุณแม่คนอื่นๆ อีกมากมาย เธอกล่าวว่าคุณแม่คนใหม่ต้องปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างในชีวิตประจำวันหลังจากการคลอดลูก แล้วยังต้องเจอกับความเครียดจากการขาดรายได้หลังคลอดลูกเพิ่มเติมเข้าไปอีก

ทางด้านคุณ Tricia Baldwin เลขาณุการและพนักงานการเงินของบริษัท Reliable Contracting ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวเธอเอง กล่าวว่า ทางบริษัทตนให้สิทธิ์ลาป่วยแบบได้ค่าจ้างแก่พนักงานที่ทำงานกับบริษัทนาน 5 ปีขึ้นไปเท่านั้น เธอกล่าวว่าบริษัทของครอบครัวตนเองนี้ไม่สามารถรองรับค่าใช้จ่ายในการให้สิทธิ์ลาป่วยและลาคลอดลูกแบบจ่ายเงินเดือนแก่พนักงานทั้ง 400 คนได้เพราะกำลังพยายามฟื้นตัวจากสภาวะเศรษฐกิจหดตัวและยังทำกำไรได้ไม่ถึง 2.5 เปอร์เซ็นต์

เธอกล่าวว่ามีบริษัทเอกชนมากมายที่ยังไม่ฟื้นตัวจากสภาวะเศรษฐกิจหดตัว ข้อบังคับทางกฏมายในเรื่องนี้จะเป็นการเพิ่มภาระทางการเงินแก่บริษัทที่ชักหน้าไม่ถึงหลัง แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่สมควรจะทำ แต่เธอต้องคิดถึงความอยู่รอดของบริษัทด้วย

ประธานาธิบดีโอบาม่า พรรคเดโมเครตและคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายอาจจะต้องการร่างกฏหมายนี้ได้รับไฟเขียวจากวุฒิสภาให้ออกมาบังคับใช้แต่หลายคนไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ขณะที่พรรครีพับบลิกันเป็นฝ่ายควบคุมเสียงข้างมากในวุฒิสภา