กระทรวงศึกษาฯ อเมริกัน เร่งหาสมดุลเรื่องความเป็นธรรมกรณีข่มขืนในรั้วมหาวิทยาลัย

ม. โคลัมเบียสามารถยุติการฟ้องร้องเรื่องการข่มขื่น

มหาวิทยาลัยโคลัมเบียที่นครนิวยอร์กสามารถยุติคดีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถูกนำขึ้นร้องเรียนโดยนักศึกษาชายจากประเทศเยอรมนี ที่กล่าวว่าสถาบันไม่ปกป้องเขาจากการถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ข่มขืนสตรีร่วมสถาบัน

พอล นุนเกสเซอร์ (Paul Nungesser) นักศึกษาชาวเยอรมัน ร้องเรียนก่อนหน้านี้ว่า มหาวิทยาลัยโคลัมเบียปล่อยการกล่าวหาดำเนินต่อไป แม้ว่าสถาบันได้สืบสวนกรณีดังกล่าวเสร็จเรียบร้อย และสรุปว่านายนุนเกสเซอร์ไม่มีความผิด ตามคำกล่าวของทนาย

มหาวิทยาลัยโคลัมเบียกล่าวว่า ช่วงการเรียนของนายนุนเกสเซอร์ที่สถาบันแห่งนี้เป็นประสบการณ์ที่ยากลำบากต่อเขา และไม่ใช่สิ่งที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียต้องการให้เกิดขึ้นกับนักศึกษาคนใด

มหาวิทยาลัยบอกด้วยว่า ขณะนี้นายนุนเกสเซอร์กลับไปเรียนด้านการสร้างภาพยนตร์ที่ประเทศเยอรมนีเรียบร้อยแล้ว

สตรีคู่กรณีของ พอล นุนเกสเซอร์ ยังได้กล่าวหามหาวิทยาลัยโคลัมเบียด้วยว่า กังวลต่อภาพลักษณ์ของสถาบันมากกว่าความปลอดภัยของนักศึกษา

ข่าวเรื่องการยุติคดีที่เกิดกับมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เกิดขึ้นขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ เบ็ทซี่ย์ ดีวอส (Betsy Devos) กำลังพิจารณาว่าควรหาสมดุลอย่างไรเรื่องความเป็นธรรมของผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหาในคดีความรุนแรงทางเพศ

เธอกล่าวว่า กำลังพิจารณาที่ขณะเปลี่ยนกฎหมายของรัฐบาลกลางสมัยประธานาธิบดีโอบามา ที่เรียกว่า "Title IX" ซึ่งให้ช่องทางด้านกฎหมายสำหรับการยื่นคำร้องเรียนกรณีนักศึกษามหาวิทยาลัยถูกข่มขืน

รัฐมนตรีดีวอส บอกกับผู้สื่อข่าวสัปดาห์ที่แล้วว่า เธอต้องการหาแนวทางที่ถูก และกระทรวงต้องการปกป้องนักเรียนทุกคน ซึ่งเธอบอกว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นเร่งด่วน

รัฐมนตรีดีวอส กล่าวเสริมว่าเป็นสิ่งที่เห็นชัดเจนว่าประเด็นนี้สร้างความเดือดร้อนให้ทุกฝ่าย

ศูนย์ให้ความรู้เรื่องความรุนแรงทางเพศแห่งชาติ หรือ National Sexual Violence Resource Center ของสหรัฐฯ ระบุว่า ประมาณร้อยละ 2 ถึงร้อยละ 8 ของการร้องเรียนว่าเกิดการข่มขืนขึ้นนั้น เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับคดีประเภทอื่นๆ

เมื่อสองปีก่อน สมาคมมหาวิทยาลัยอเมริกัน หรือ Association of American Universities จัดทำรายงานที่ชี้ว่า ครึ่งหนึ่งของนักศึกษามหาวิทยาลัยไม่ร้องเรียนเหตุการณ์ความรุนแรงทางเพศ เพราะไม่คิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่จริงจังเพียงพอ

นอกจากนั้นนักศึกษารายอื่นๆ เห็นว่าเป็นเรื่องน่าอายและไม่น่ามีการจัดการใดๆ อยู่ดี

(รายงานโดย Bruce Alpert / รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียง)