อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ในขณะนี้อยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ปีค.ศ. 2007
กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ รายงานว่าอัตราการว่างงานสำหรับคนที่มีปริญญาตรีหรือสูงกว่านั้นในสหรัฐฯ อยู่ที่ 2.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับอัตราการว่างงานโดยรวมซึ่งอยู่ที่ 4.5 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่คนที่เรียนจบระดับมัธยมปลายหรือต่ำกว่านั้น มีอัตราการว่างงานที่ 6.8 เปอร์เซ็นต์
Nicole Smith หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำศูนย์การศึกษาและแรงงานแห่งมหาวิทยาลัย Georgetown ในกรุงวอชิงตัน กล่าวว่า "ปีนี้เป็นปีที่ดีและเหมาะแก่การเรียนจบ เพราะอัตราการว่างงานที่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีจะช่วยให้นักศึกษาที่เรียนจบในปี 2017 นี้ มีโอกาสดีมากที่จะได้งานทำ"
ผลการสำรวจชิ้นล่าสุดโดย National Association of Colleges and Employers ชี้ว่าการมีศึกษาสูงจะช่วยให้มีโอกาสได้งานทำสูงขึ้น และความต้องการแรงงานที่เรียนจบระดับประกาศนียบัตร ปริญญาตรีและปริญญาโทมีสูงมาก โดยเฉพาะทางสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมและคณิตศาสตร์
แต่ Smith หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Georgetown กล่าวว่าไม่จำเป็นต้องมีปริญญาตรีเพื่อหางานทำในตลาดงานทุกวันนี้ เพราะมีตำแหน่งงาน 28 ล้านตำแหน่งในตลาดแรงงานสหรัฐฯ ในขณะนี้ เป็นงานที่ได้เงินเดือนสูงสำหรับคนที่ไม่มีปริญญาตรี
Smith กล่าวว่าในขณะที่การเรียนจบสูงอาจช่วยให้นักศึกษาจบใหม่มีโอกาสมากขึ้น แต่ยังมีคนที่เรียนจบปริญญาตรีจำนวนมากที่ไม่มีงานทำ
เธอกล่าวว่าเกือบ 1 ใน 3 ของคนเหล่านี้ที่ได้รับการศึกษาสูงเกินความต้องการของตลาดแรงงาน
ด้าน Mark Hamrick นักวิเคราะห์อาวุโสแห่ง Bankrate.com กล่าวว่า ผลการสำรวจเกี่ยวกับสาขาอาชีพที่ฮ็อทที่สุดในปี 2017 นี้ พบว่าสาขาอาชีพที่โตเร็วที่สุดไม่ระบุให้แรงงานต้องมีปริญญาตรี ไม่ว่าจะเป็นงานด้านกายภาพบำบัด การบริการด้านการดูแลสุขภาพ และงานด้านการบริการผู้สูงอายุ
ตลาดงานในสาขานี้ต้องการแรงงานจำนวนมาก เพราะสหรัฐฯ มีคนรุ่น baby boomers ที่เกิดในช่วงปีค.ศ. 1946 ถึง 1964 เริ่มเข้าสู่วัยเกษียณอายุ
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ในสหรัฐฯ ชี้ว่างานที่กระตุ้นเศรษฐกิจในปัจจุบันจะต่างจากงานที่ส่งเสริมเศรษฐกิจสหรัฐฯ 30-40 ปีที่แล้วอย่างแน่นอน
Smith หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Georgetown กล่าวว่างานในภาคการผลิตจะไม่กลับมาเติบโตอีกในสหรัฐฯ โดยงานในภาคการผลิตที่จะยังคงอยู่จะเป็นงานที่ใช้ความสามารถสูง เป็นงานไฮเทคและต้องการแรงงานที่มีความสามารถสูงกว่าในอดีต
Smith ชี้ว่าตลาดงานในปัจจุบันแตกต่างจากในอดีตเพราะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้านเทคโนโลยีและทางสังคม ทำให้แรงงานต้องเรียนรู้ตลอดชีวิตการทำงาน และหมายความว่าการมีปริญญาเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปัจจุบันทำให้ทั้งแรงงานเก่าและแรงงานใหม่ต้องเต็มใจที่จะย้ายสถานที่อยู่ตามแหล่งงานต่างๆ
Mark Hamrick นักวิเคราะห์อาวุโสแห่ง Bankrate.com กล่าวว่า ความต้องการแรงงานจะยังมีสูงที่สุดในพื้นที่ที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็วและมีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นั่นหมายความว่าแรงงานจะยังเดินหน้าอพยพไปหางานทำในบรรดาเมืองใหญ่ทางฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ต่อไป
รายงานเกี่ยวกับตำแหน่งงานในสหรัฐฯ ชิ้นล่าสุด ชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ สร้างตำแหน่งงานเพิ่มขึ้น 211,000 ตำแหน่งในเดือนเมษายนที่ผ่านมา และอัตราการว่างงานลดลงไปอยู่ที่ 4.4 เปอร์เซ็นต์
นี่เป็นตัวเลขที่สดใสเมื่อเทียบกับตัวเลขคนว่างงานหลังเกิดวิกฤติทางการเงินในปี 2008 ที่มีคนตกงานเดือนละ 8 แสนคน และอัตราการว่างงานพุ่งขึ้นไปอยู่สูงถึง 10 เปอร์เซ็นต์
(รายงานโดย Mil Arcega / เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว )