รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ลอยด์ ออสติน พบปะกับฮุน เซน อดีตผู้นำกัมพูชา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชาเมื่อวันอังคาร เพื่อหารือเรื่องการฟื้นแผนการซ้อมรบร่วมกันระหว่างสองประเทศ ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของจีนกับกลุ่มประเทศในอาเซียนกับจีน
รมต.ออสติน โพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ X ว่า “เรามีการหารือที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับหนทางในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านกลาโหมระหว่างสหรัฐฯ และกัมพูชา และผมตั้งตารอคอยที่จะมีการหารือเพิ่มเติมกันอีก”
ด้านโฆษกกระทรวงกลาโหม หรือ เพนตากอน พลตรีแพทริก ไรเดอร์ กล่าวว่าการหารือระหว่างรัฐมนตรีออสตินและผู้นำกัมพูชา ครอบคลุมถึงการฟื้นแผนการฝึกทหารในด้านความช่วยเหลือด้านภัยพิบัติ เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพแห่งสหประชาชาติ เช่นเดียวกับการลดพื้นที่อันตรายจากทุ่นระเบิด และการเก็บกู้ระเบิด
นอกจากนี้ รัฐมนตรีออสตินยังได้หารือนอกรอบกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเน็ต และฮุน เซน อดีตผู้นำที่ปัจจุบันนั่งตำแหน่งประธานวุฒิสภากัมพูชา และรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา เตีย ไซฮา (Tea Seiha)
ทั้งนี้ มีทิศทางในเชิงบวกว่ากัมพูชาในยุคการบริหารของฮุน มาเน็ต ที่เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปีที่แล้ว ต่อจากฮุน เซน ผู้เป็นบิดา จะมีแนวทางที่สอดคล้องกับรัฐบาลกรุงวอชิงตันมากกว่า ขณะที่ฮุน เซน ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับจีน
เมื่อเดือนที่แล้ว จีนและกัมพูชาซ้อมรบประจำปี Golden Dragon ร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการทหารและกระชับความร่วมมือระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศ ขณะที่รัฐบาลกัมพูชาได้ยกเลิกการซ้อมรบ Ankor Sentinel ร่วมกับสหรัฐฯ ไปเมื่อปี 2017
ที่ผ่านมา จีนได้เข้ามามีบทบาทช่วยเหลือด้านเงินทุนให้กับกัมพูชาสำหรับการจัดหาอาวุธทางการทหารและความช่วยเหลือด้านการยกระดับฐานทัพใหม่ เช่น ฐานทัพเรือเรียม ทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของกัมพูชา
ด้านนักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงสหรัฐฯ และนานาชาติ ต่างแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องกับจีนกับฐานทัพเรือดังกล่าว และเตือนว่าจีนอาจใช้เป็นพิกัดเทียบท่าของทัพเรือกรุงปักกิ่งได้
โดยตอนนี้มีเรือรบจีน 2 ลำที่เทียบท่าบริเวณฐานทัพเรือกัมพูชาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อน ซึ่งรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่าการมีอยู่ของเรือจีนเป็นเวลา 5 เดือนที่ผ่านมานั้นไม่ได้บ่งชี้ว่าจะเป็นการประจำการถาวรของกองทัพจีน
- มีเนื้อหาบางส่วนจากรอยเตอร์ เอเอฟพี