Your browser doesn’t support HTML5
โครงการท่อส่งน้ำมัน Keystone XL จะนำน้ำมันดิบจาก Canada ลงใต้ผ่านหลายรัฐในสหรัฐ และไปสิ้นสุดที่รัฐ Louisiana ริมอ่าวเมกซิโก
และหลังจาก 6 ปี รัฐบาลสหรัฐชุดประธานาธิบดี Barack Obama ยังพิจารณาผลได้ผลเสียของโครงการที่ว่านี้ต่อสหรัฐ ไม่แล้วเสร็จ
ในวันพฤหัสบดี คณะกรรมาธิการพลังงานของวุฒิสภา ซึ่งเวลานี้พรรค Republican มีเสียงข้างมาก ลงมติให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายฉบับนี้ ก้าวต่อไปคือการโต้อภิปรายในสภา และการลงคะแนนเสียง ก่อนจะส่งให้ประธานาธิบดี Obama ลงนามต่อไป หรือใช้อำนาจวีโต้
เวลานี้ พรรค Republican มี 54 เสียงในวุฒิสภา ซึ่งเป็นเสียงข้างมาก แต่ไม่พอที่จะทำให้การวีโต้นั้นหมดสภาพได้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ฝ่ายพรรค Republican จะสามารถชักชวนสมาชิกพรรค Democrat ให้ร่วมสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้มากพอที่จะลบล้างอำนาจวีโต้ของประธานาธิบดีได้หรือไม่ การจะทำเช่นนั้นได้ จะต้องมีเสียงสนับสนุนรวมทั้งหมด 67 เสียงด้วยกัน
สว. John Hoeven ของพรรรค Republican ผู้ร่วมร่างกฎหมายฉบับนี้ กล่าวว่า อุตสาหกรรมพลังงานสร้างงาน ก่อให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมความมั่นคงของประเทศ และว่าการร่วมมือกับ Canada จะทำให้อเมริกาเหนือมีความมั่นคงทางพลังงาน และการที่น้ำมันราคาต่ำลงอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ ทำให้สหรัฐแข่งขันได้ดียิ่งขึ้นในตลาดโลก
อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดกันว่า ประโยชน์ทางเศรษฐกิจของ Keystone ต่อสหรัฐ และต่ออุปทานน้ำมันปีโตร-เลียมในโลก จะมีน้อยมาก ในขณะที่เรื่องนี้ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างอุตสาหกรรมพลังงานกับนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสมาชิกรัฐสภาบางส่วน
สว. Bernie Sanders ซึ่งไม่สังกัดพรรคใด วิตกที่รัฐสภาไม่ฟังความเห็นของนักวิทยาศาสตร์ ไม่สนใจกับคำเตือนในเรื่องสภาพอากาศโลกที่ร้อนขึ้น เพราะแก๊สคาร์บอนที่มาจากการขุดเจาะและผลิตน้ำมันชนิดที่สกปรกที่สุดในโลก ที่จะส่งผ่านท่อ Keystone
สมาชิกพรรค Democrat หลายคน ไม่เห็นความจำเป็นของท่อส่งน้ำมันนี้ ในขณะที่อุปทานน้ำมันโลกขณะนี้ล้นตลาด จนทำให้ราคาน้ำมันลดต่ำสุดในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา
อีกประเด็นหนึ่งที่กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแสดงความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก และยังไม่มีใครตอบคำถามดังต่อไปนี้ได้ กล่าวคือ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบกับการทำความสะอาดสภาพแวดล้อม ถ้าท่อส่งน้ำมันนี้ เกิดรั่วไหลขึ้นมา