ในปี 2557 ที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโอบาม่าประสบปัญหาท้าทายด้านนโยบายต่างประเทศหลายเรื่อง เริ่มตั้งแต่การที่รัสเซียส่งกำลังเข้ายึดแหลมไครเมียของยูเครน ซึ่งสหรัฐฯ ได้ตอบโต้ด้วยการออกคำเตือนอย่างแข็งกร้าวและการใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจแต่ตัดสินใจไม่ใช้มาตรการทางทหารเพราะเห็นว่าปัญหานี้เป็นเรื่องของหลักการแต่ไม่มีความสำคัญในแง่ยุทธศาสตร์ต่อสหรัฐฯ ไปจนถึงเรื่องความขัดแย้งในอิรักและซีเรีย รวมถึงการที่กลุ่ม IS สามารถขยายอำนาจเพื่อครอบครองพื้นที่ได้มากขึ้นทั้งในอิรักและซีเรีย โดยในชั้นแรกประธานาธิบดีโอบาม่าเองก็ยอมรับว่ายังไม่มีแผนรับมือกับเรื่องนี้
สำหรับในเรื่องการปรับดุลยภาพทางทหารเพื่อมุ่งหันมาสนใจภูมิภาคเอเซียแปซิฟิคมากขึ้น หรือที่เรียกว่า Asia Pivot นั้น นักวิเคราะห์บางคนได้ชี้ว่านโยบายดังกล่าวถูกรบกวนหรือเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาเหตุการณ์ในอียิปต์ ลิเบีย ยูเครน ซีเรีย จากกลุ่ม ISIL และจากการระบาดของโรคอีโบล่าเป็นต้น อย่างไรก็ตามการตัดสินใจด้านนโยบายที่สำคัญของผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนสิ้นปีคือการตัดสินใจปรับความสัมพันธ์กับคิวบา โดยประธานาธิบดีโอบาม่าให้เหตุผลว่าหากความพยายามโดดเดี่ยวคิวบาในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ผลก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนนโยบายเพื่อใช้แนวทางใหม่
