สหรัฐฯ ประกาศเพิ่มความร่วมมือทางทหารกับพันธมิตรในแถบอินโดแปซิฟิกหลายประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ พร้อมไปกับการขยายความสัมพันธ์กับประเทศที่ไม่ใช่พันธมิตรที่มีนโยบายไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด อย่างเช่นอินโดนีเซียด้วย
ทหารอเมริกันและทหารอินโดนีเซียใช้เวลาว่างจากการซ้อมรบที่จังหวัดชวาตะวันออกของอินโดนีเซีย แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและร่วมฝึกซ้อมกีฬาชนิดต่าง ๆ รวมทั้งอเมริกันฟุตบอล และวอลเลย์บอล
สหรัฐฯ ส่งทหาร 2,500 คนเข้าร่วมการซ้อมรบที่ชื่อว่า ซูเปอร์ การูดา ชีลด์ (Super Garuda Shield) เป็นเวลาสองสัปดาห์ ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมต่อเนื่องถึงเดือนกันยายน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามกระชับความสัมพันธ์ทางทหารในภูมิภาคนี้
นอกจากนี้ยังมีโครงการบริการด้านสาธารณสุขชั่วคราวให้แก่ประชาชนที่เขตปกครองซิโดอาร์โจ รีเจนซี ใกล้กับจุดที่มีการซ้อมรบ
เคลลี กรีเอโก นักวิเคราะห์ด้านการทหารแห่งสถาบัน Stimson Center ในกรุงวอชิงตัน กล่าวว่า "ในเบื้องต้นการซ้อมรบนี้คือรูปแบบหนึ่งของการทูตด้านการทหาร และมีจุดประสงค์เพื่อส่งสัญญาณทางการเมืองซึ่งบ่อยครั้งมีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์กว่าประโยชน์ทางการทหารเสียอีก"
Your browser doesn’t support HTML5
การซ้อมรบครั้งนี้มีมีทหารเข้าร่วมทั้งหมด 5,500 คน จากมากกว่า 12 ประเทศ รวมทั้งจากแคนาดา ฝรั่งเศส อังกฤษ ออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น ไทย และสิงคโปร์
แต่หนึ่งในประเทศมหาอำนาจที่มิได้เข้าร่วมในการซ้อมรบนี้ คือ จีน ซึ่งมีข้อพิพาทเรื่องทะเลจีนใต้กับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายประเทศ รวมทั้ง อินโดนีเซีย เวียดนามและฟิลิปปินส์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทหารอินโดนีเซียกล่าวปฏิเสธแนวคิดที่ว่าการซ้อมรบครั้งนี้ที่มีอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ คือการเลือกข้างระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
พลเรือโทมามาน เฟอร์มานซียาห์ ผู้บัญชาการการซ้อมรบและการฝึกฝนกำลังทหารของอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียไม่ได้เป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ และจะเลือกเฉพาะภารกิจที่ดีที่สุดสำหรับอินโดนีเซียเองเท่านั้น
ส่วนหนึ่งของภารกิจที่ดีที่สุดดังกล่าว คือการร่วมฝึกซ้อมบัญชาการและควบคุมกองกำลัง และการฝึกปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบกที่มีทหารจากหลายประเทศเข้าร่วม
ราห์มัน ยาคูบ ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากสถาบัน Lowy institute ในนครซิดนีย์ กล่าวว่า "เรือรบของกองทัพเรืออินโดนีเซียสามารถสื่อสารโดยตรงกับเรือรบสหรัฐฯ ผ่านการฝึกซ้อมที่ซับซ้อนและออกแบบมาอย่างดี ตา่งกับการซ้อมรบระหว่างจีนกับอินโดนีเซียซึ่งค่อนข้างเรียบง่าย ไม่สลับซับซ้อน"
ผู้เชี่ยวชาญผู้นี้กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่กองทัพเรือผู้หนึ่งบอกกับตนว่า การซ้อมรบระหว่างอินโดนีเซียกับจีนนั้นธรรมดาจนสามารถใช้เรือประมงในการฝึกซ้อมได้
ทั้งนี้ สถาบัน Lowy Institute ระบุว่า ระหว่างปี 2021 - 2023 สหรัฐฯ ซ้อมรบร่วมกับประเทศในอาเซียน 525 ครั้ง ถือเป็นประเทศที่มีการฝึกซ้อมทางการทหารมากที่สุดในภูมิภาคนี้
- ที่มา: วีโอเอ