ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิ์สองรายจากองค์การสหประชาชาติออกมาเรียกร้องให้ฮามาสรับผิดชอบต่ออาชญากรรมต่าง ๆ ที่มีการกล่าวหาว่าเกิดขึ้นโดยฝีมือของกลุ่มติดอาวุธนี้ ซึ่งรวมถึง การทารุณกรรมทางเพศ ในระหว่างการโจมตีอย่างรุนแรงเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมเข้าใส่อิสราเอล
อลิซ จิล เอ็ดเวิร์ด ผู้รายงานพิเศษขององค์การสหประชาชาติ (U.N. special rapporteur) ด้านเหตุทารุณกรรม และมอร์ริส ทิดบอลล์-บินซ์ ผู้รายงานพิเศษของยูเอ็นด้านวิสามัญฆาตกรรม ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญอิสระที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ คือ ผู้ที่ออกมาเรียกร้องประเด็นนี้ในวันจันทร์ โดยไม่เป็นการพูดในนามของยูเอ็นแต่อย่างใด
ทั้งสองคนระบุว่า มีหลักฐานที่ปรากฏออกมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ที่แสดงให้เห็นว่ามีการกระทำอันร้ายแรงที่ทำให้ผู้รับรู้ห่วงกังวลหนัก ทั้ง “การทารุณกรรมทางเพศ ซึ่งรวมถึงการข่มขืนและการรุมโทรม การล่วงละเมิดทางเพศ การทำให้เสียโฉมหรือพิการ และการใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์” ด้วย
เอ็ดเวิร์ดและบินซ์ ออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า “การกระทำเหล่านี้คือ การทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งยังหมายถึงการก่ออาชญากรรมสงครามซึ่ง เมื่อพิจารณาตัวเลขเหยื่อและการไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าและการวางแผนอย่างละเอียดเพื่อกระทำการโจมตีแล้ว นี่อาจถือเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติได้”
ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองอธิบายด้วยว่า หลักฐานที่มีปรากฏออกมานั้นมีทั้ง ร่างของคนที่ถูกเผาทั้งเป็น ร่างของผู้ที่ถูกตัดแขนขา ทำให้พิการหรือเสียโฉม หรือมีร่องรอยของภาวะบาดเจ็บที่มาจากการประหารชีวิต
ก่อนหน้านี้ อิสราเอลเคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์ยูเอ็นว่า ไม่ทำการต่าง ๆ มากเพียงพอเกี่ยวกับการกระทำใช้ความรุนแรงทั้งหลายที่เกิดขึ้นระหว่างการโจมตีของกลุ่มฮามาสที่นำมาซึ่งการเสียชีวิตของกว่า 1,140 คนในอิสราเอล ตามข้อมูลของสื่อเอเอฟพี
การโจมตีรุนแรงที่ว่าคือต้นเหตุของการเปิดฉากทำสงครามในฉนวนกาซ่าโดยอิสราเอลที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 23,000 คนโดยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขกาซ่าที่ควบคุมโดยฮามาส
- ข้อมูลบางส่วนมาจากรอยเตอร์และเอพี