ยูเครนและรัสเซียต่างเริ่มเตรียมตัวเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพแบบตัวต่อตัวครั้งแรกในรอบกว่า 2 สัปดาห์ ที่ตุรกีรับเป็นเจ้าภาพในวันอังคาร ขณะที่ แหล่งข่าวในสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ไม่มีทีท่าว่าจะพร้อมยอมประนีประนอมใดๆ เพื่อที่จะยุติสงครามที่เครมลินเริ่มขึ้นมานี้ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน กล่าวในวันจันทร์ว่า การประกาศหยุดยิง คือสิ่งที่กรุงเคียฟต้องการมากที่สุดจากการเจรจาที่กำลังจะมีขึ้นที่นครอิสตันบูล หลังประธานาธิบดี เรจิบ เทยิบ เออโดวาน ของตุรกีได้หารือกับ ปธน.ปูติน ในวันอาทิตย์
รมต.คูเลบา ยืนยันด้วยว่า ยูเครนจะไม่ยอม “เสียสละผู้คน แผ่นดิน หรืออธิปไตย” เป็นอันขาด
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า อภิมหาเศรษฐี โรมัน อบราโมวิช ที่รับอาสาเป็นผู้ไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ และตัวแทนการเจรจาจากยูเครนล้มป่วยจากอาการต้องสงสัยว่าถูกยาพิษ หลังเข้าร่วมประชุมกันเมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้ระดับความตึงเครียดของการเจรจาที่จะมีขึ้นนี้พุ่งสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
รายงานดังกล่าวจาก หนังสือพิมพ์ เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล (The Wall Street Journal) และสื่อ เบลลิงแคท (Bellingcat) ที่เชี่ยวชาญด้านการทำข่าวแนวสืบสวน ระบุว่า มีเหตุต้องสงสัยดังว่า โดยอ้างข้อมูลจากผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ทางการยูเครนแสดงท่าทีไม่สนใจในเรื่องนี้ และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งออกมากกล่าวว่า สาเหตุของอาการป่วยที่ว่านั้นเป็นเรื่องของสภาวะแวดล้อม และไม่ใช่เรื่องของยาพิษ
ทั้งนี้ การเจรจาระหว่างยูเครนและรัสเซียที่กำลังจะมีขึ้นนี้ เป็นการหารือแบบตัวต่อตัวครั้งแรกนับตั้งแต่รัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองปะทะกันด้วยวาจาอย่างเผ็ดร้อนเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา และรายงานข่าวชี้ว่า การยอมกลับมาร่วมหารือครั้งนี้น่าจะเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงที่หลังฉากการรุกรานยูเครนของรัสเซียที่ไม่สำเร็จดังหวัง ขณะที่ เศรษฐกิจของประเทศย่ำแย่ลงทุกขณะเพราะฤทธิ์ของมาตรการลงโทษจากชาติตะวันตก
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ของยูเครนแสดงความหวังว่า รัสเซียอาจจะยอมประนีประนอมมากขึ้นในการเจรจาในวันอังคาร หลังจากเห็นศักยภาพในการต่อต้านการรุกรานของตนและความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับกองทัพเครมลินเอง แต่เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ รายหนึ่ง กล่าวว่า ปธน.ปูตินนั้นไม่ได้สงสัญญาณว่าจะยอมทำเช่นนั้นเลย
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า “อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน” คือ ประเด็นที่มีความสำคัญสูงสุดในการเจรจาสันติภาพนี้ และระบุว่า ชาวยูเครนนั้นต้องการให้เกิดสันติโดยเร็วที่สุดด้วย
เมื่อช่วงเช้าของวันอาทิตย์ ปธน.เซเลนสกี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสื่อรัสเซียและยืนยันว่า ยูเครนยินดีที่จะพิจารณาดำเนินนโยบายเป็นกลาง ตามเงื่อนไขของข้อตกลงสันติภาพ หากประเด็นดังกล่าวได้รับการรับรองจากประเทศบุคคลที่ 3 และให้ยูเครนได้ทำประชามติได้ด้วย
ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างคำพูดของผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้นำยูเครนรายหนึ่งและรายงานว่า ตุรกีนั้นน่าจะเป็นประเทศที่มาทำหน้าที่รับรองความมั่นคงของยูเครนได้
- ข้อมูลบางส่วนมาจากรอยเตอร์