ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า องค์การนาโต้จะเพิ่มศักยภาพด้านการป้องกันตนเอง หลังจากที่ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เรียกร้องให้ผู้นำนาโต้เพิ่มความช่วยเหลือด้านอาวุธให้แก่ยูเครน "โดยไม่มีข้อจำกัด" เพื่อต่อต้านการรุกรานของรัสเซียซึ่งเข้าสู่เดือนที่สอง
คำร้องขอของผู้นำยูเครนมีขึ้นในขณะที่ผู้นำองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ ร่วมการประชุมที่กรุงบรัสเซลล์ เพื่อหารือเรื่องการตอบโต้ในระยะสั้นและระยะยาวต่อรัสเซีย
ประธานาธิบดีเซเลนสกี กล่าวต่อที่ประชุมนาโต้ผ่านวิดีโอออนไลน์ว่า ทหารยูเครนต้องการเครื่องบินรบ รถถัง และระบบป้องกันขีปนาวุธทั้งทางทะเลและทางอากาศ พร้อมเตือนว่ารัสเซียจะโจมตีใส่โปแลนด์ซึ่งเป็นสมาชิกของนาโต้ และประเทศอื่น ๆ ในยุโรปต่อไป
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ผู้หนึ่งกล่าวว่า ปธน.เซเลนสกีมิได้ขอให้มีการกำหนดเขตห้ามบินเหนือยูเครนต่อที่ประชุมในครั้งนี้ หลังจากที่นาโต้ยืนกรานหลายครั้งก่อนหน้านี้ว่าจะไม่ทำเช่นนั้นเพราะจะเป็นการเผชิญหน้ากับรัสเซียโดยตรงและทำให้สงครามลุกลาม
ต่อมาทางทำเนียบขาวเปิดเผยแถลงการณ์ของประธานาธิบดีไบเดน ระบุว่า จากนี้ไปจนถึงการประชุมสุดยอดครั้งหน้าขององค์การนาโต้ในเดือนมิถุนายน สหรัฐฯ จะจัดทำแผนเพื่อเพิ่มกำลังทหารและศักยภาพในการป้องกันตนเองของนาโต้
ทางด้านเลขาธิการองค์การนาโต้ เยนส์ ซโตลเทนเบิร์ก กล่าวหลังการประชุมครั้งนี้ว่า นาโต้ได้สั่งให้กองกำลังป้องกันตนเองด้านอาวุธเคมี อาวุธชีวภาพ กัมมันตรังสี และนิวเคลียร์ เตรียมพร้อมสำหรับการเกิดเหตุฉุกเฉินแล้ว
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯ แสดงความกังวลว่า รัสเซียอาจใช้อาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพในยูเครน พร้อมเตือนว่ารัสเซียอาจใช้ข่าวปลอมเรื่องห้องทดลองลับในยูเครนเป็นข้ออ้างในการใช้อาวุธเคมีโจมตียูเครนเสียเอง ซึ่งทางประธานาธิบดีไบเดนออกมาเตือนด้วยว่า รัสเซียจะต้องชดใช้อย่างมหาศาลหากใช้อาวุธเคมีโจมตีใส่ยูเครน
นอกจากนี้ สมาชิกนาโต้ยังมีแถลงการณ์ร่วมกันว่า จะเร่งให้คำมั่นเรื่องการจัดสรรงบประมาณอย่างน้อย 2% ของงบประมาณแห่งชาติ ให้แก่องค์การนาโต้ เพื่อพัฒนาศักยภาพทางทหารขององค์การแห่งนี้ในระยะยาว
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์