สมาชิกของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ กลุ่มจี-7 (G-7) ปฏิเสธข้อเรียกร้องของทำเนียบเครมลิน ที่ต้องการให้ผู้สั่งซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียชำระค่าสินค้าด้วยสกุลเงินรูเบิลเท่านั้น
โรเบิร์ต ฮาเบ็ค รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและปฏิบัติการทางสภาพภูมิอากาศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เปิดเผยในวันจันทร์ว่า รัฐมนตรีกลุ่มจี-7 ทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นการตัดสินใจเพียงฝ่ายเดียวและเป็นการละเมิดสัญญาที่มีอยู่ พร้อมระบุว่า การชำระค่าก๊าซธรรมชาติด้วยสกุลเงินรูเบิลนั้น เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และรัฐบาลที่เกี่ยวข้องจะร้องขอให้บริษัทต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากประเด็นนี้ อย่าทำตามคำเรียกร้องของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ด้วย
ฮาเบ็ค ยังกล่าวด้วยว่า ข้อเรียกร้องของปธน.ปูติน ให้ผู้สั่งซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในสัญญาให้มาเป็นการซื้อขายด้วยสกุลเงินรูเบิล แสดงให้เห็นว่า ผู้นำรัสเซียกำลังหลังชนฝาแล้ว มิฉะนั้น คงไม่ออกมายื่นข้อเรียกร้องเช่นนี้
ก่อนหน้านี้ ปธน.ปูติน ประกาศว่า ประเทศต่างๆ ที่ทำการ “อันไม่เป็นมิตร” ต่อรัสเซียจะต้องจ่ายเงินค่าก๊าซธรรมชาติเป็นเงินรูเบิลเท่านั้น ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าวที่ทำให้ธนาคารกลางของประเทศที่เกี่ยวข้องต้องเร่งศึกษาหาทางช่วยให้ผู้ซื้อแลกเงินรูเบิลมาใช้ น่าจะส่งผลให้ค่าเงินเฟ้อในรัสเซียยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก ซึ่งจะไม่เป็นการดีต่อเศรษฐกิจของประเทศรวมทั้งของยุโรปด้วย
ปัจจุบัน ยุโรปนำเข้าก๊าซธรรมชาติสัดส่วน 40% และน้ำมันสัดส่วน 25% ที่ใช้ในภูมิภาคมาจากรัสเซีย โดยหลังเกิดสงครามในยูเครนขึ้น ยุโรปได้เร่งหาทางลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียอย่างรีบด่วนแล้ว
ขณะเดียวกัน มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจจากชาติตะวันตกได้ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของรัสเซียปรับขึ้นอย่างมาก และส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศด้วย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลยุโรปบางรายแสดงความสงสัยว่า รัสเซียจะประสบความสำเร็จตามข้อเรียกร้องของตนหรือไม่
ทางฝ่ายรัสเซียนั้น เมื่อมีผู้สอบถามว่า เครมลินจะสั่งระงับการส่งก๊าซไปยังยุโรปหรือไม่ หากไม่ทำตามเงื่อนไขการชำระเงินด้วยสกุลเงินรูเบิล ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกรัฐบาลมอสโก กล่าวว่า “ที่แน่ๆ เราจะไม่แจกก๊าซให้ฟรีๆ และในสถานการณ์ปัจจุบันเช่นนี้ คงเป็นไปไม่ได้เท่าไหร่เลย ที่(รัสเซีย)จะทำการกุศลใดๆ ให้กับยุโรป”
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี
