สหภาพยุโรป หรือ อียู ประกาศมอบเงินช่วยเหลือด้านพลังงานให้แก่ยูเครนมูลค่า 180 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยรับมือฤดูหนาวที่กำลังมาถึง
ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป เออร์ชูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน แถลงข่าวที่กรุงบรัสเซลล์ในวันพุธว่า เงินช่วยเหลือ 67 ล้านดอลลาร์จะถูกใช้ในการจัดหาที่หลบภัย เครื่องทำความร้อน และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่าง ๆ ขณะที่อีก 111 ล้านดอลลาร์จะมาจากสินทรัพย์ที่ถูกอายัดของรัสเซีย ซึ่งจะถูกใช้ในการซ่อมแซมโครงสร้างสาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่ถูกรัสเซียทำลายไป
ฟ็อน แดร์ ไลเอิน กล่าวว่า "เป็นเรื่องถูกต้องที่รัสเซียต้องชดใช้จากความเสียหายที่ก่อขึ้น" และว่า อียูจะเดินหน้าปรับเปลี่ยนทรัพย์สินของรัสเซียเป็นเงินช่วยเหลือด้านพลังงานแก่ยูเครนต่อไป ซึ่งรวมถึงการกระจายการผลิตพลังงาน และการนำพลังงานทางเลือกอื่นมาใช้
ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป จะเดินทางไปกรุงเคียฟในวันศุกร์เพื่อหารือสถานการณ์ด้านพลังงานของยูเครน
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) รายงานว่า รัสเซียระดมโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้ยูเครนต้องเผชิญกับฤดูหนาวที่ยากลำบากที่สุดในปีนี้นับตั้งแต่สงครามกับรัสเซียปะทุขึ้นเมื่อปี 2022
Your browser doesn’t support HTML5
ยูเครนเผยรัสเซียถล่มโครงสร้างพื้นฐานพลังงานในซูมี
ด้านผู้อำนวยการบริหารของ IEA ฟาติห์ บิรอล กล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงบรัสเซลล์เช่นกันว่า การโจมตีของรัสเซียเมื่อปลายเดือนที่แล้วทำลายโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของยูเครน และว่าขณะนี้ "ยูเครนได้สูญเสียศักยภาพด้านการผลิตไฟฟ้าราว 2 ใน 3 ของที่มีอยู่ทั้งหมด"
บิรอล ระบุว่า ความต้องการพลังงานในช่วงฤดูหนาวจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ของชาวยูคเรน ไม่เพียงแต่เฉพาะบ้านเรือนต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงโรงเรียน โรงพยาบาล และเครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งจะส่งผลกระทบไปไกลเหนือกว่าภาคพลังงาน
สถานการณ์ในสนามรบ
ยูเครนเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า ได้ยิงโดรนของรัสเซียตก 42 ลำในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ช่วงคืนวันพุธที่ผ่านมา รวมทั้งยิงขีปนาวุธนำวิถีตกอีกหนึ่งลูกด้วย
ทางด้านรัสเซียกล่าวว่า ได้ทำลายโดรนของยูเครน 2 ลำเหนือแคว้นเคิร์สก และอีก 1 ลำเหนือแคว้นเบลกอรอด หลังจากที่โดรนยูเครนโจมตีใส่โกดังแห่งหนึ่งในแคว้นทเวอร์ของรัสเซียเมื่อวานนี้จนทำให้เกิดพลิงไหม้ครั้งใหญ่
สำนักงานความมั่นคงของยูเครนระบุว่า โกดังที่ถูกทำลายนั้นเป็นสถานที่เก็บขีปนาวุธ ระเบิดนำวิถี และกระสุนปืนใหญ่จำนวนมากของกองทัพรัสเซีย
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์