ยูเครนและรัสเซียแลกเปลี่ยนเชลยสงคราม หรือ POW (Prisoner o War) ในโอกาสครบรอบ 33 ปีวันประกาศอิสรภาพของยูเครน
การแลกเปลี่ยนตัวเชลยสงครามครั้งนี้คือครั้งที่ 55 ระหว่างรัสเซียกับยูเครน ถือเป็นการแลกเปลี่ยนเชลยครั้งแรกนับตั้งแต่ยูเครนเริ่มปฏิบัติการตอบโต้ด้วยการบุกแคว้นเคิร์สกของรัสเซียเมื่อเดือนที่แล้ว
เชลยสงครามชาวยูเครน 115 คนได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระและเดินทางกลับถึงยูเครนในวันเสาร์ โดยทั้งหมดเป็นทหารเกณฑ์ที่ถูกรัสเซียจับตัวไประหว่างการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายในช่วงกว่าสองปีที่ผ่านมา รวมทั้งผู้ที่ถูกจับตัวไปในช่วงเดือนแรก ๆ ของสงครามด้วย
บอห์ดาน โอคห์ริเมนโก แห่งสำนักงานดูแลเชลยสงครามของยูเครน กล่าวว่า "เราสามารถนำตัววีรบุรุษของเรา 115 คน กลับบ้านได้แล้วในวันนี้ และจำนวนพลเมืองยูเครนที่ได้รับการปลอ่ยตัวทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 3,520 คน จาก 3,405 คนก่อนหน้านี้"
Your browser doesn’t support HTML5
เชลยสงครามชาวยูเครนที่ได้รับอิสระยังคงมีสภาพอิดโรยแต่ดูมีความสุข หลายคนในจำนวนนี้ตกอยู่ในการควบคุมตัวของรัสเซียมานานกว่าสองปีครึ่ง รวมทั้ง เยฟเวน ชายชาวยูเครนผู้ไม่ขอเปิดเผยชื่อนามสกุลเต็มเนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย
เขากล่าวกับวีโอเอว่า "สองปีครึ่งที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากยิ่ง แต่เราก็สามารถอดทนผ่านมาได้ พวกเรายังคงอยูที่นี่และรอเวลาที่จะได้กลับบ้าน"
อดีตเชลยศึกผู้นี้กล่าวด้วยว่า "เราถูกควบคุมตัวไว้อย่างยาวนาน ซึ่งพวกเราส่วนใหญ่จะยังคงทำหน้าที่เพื่อปกป้องประเทศต่อไป เราจะยังไม่ไปไหน"
ด้านอาร์เตม เชลยสงครามอีกผู้หนึ่ง กล่าวกับวีโอเอว่า "การถูกจับกุมตัวไว้ห่างจากบ้านหลายพันกิโลเมตรนั้น เป็นเรื่องที่ยากลำบากอย่างยิ่ง"
ทางด้านองค์กรของรัสเซียที่ดูแลเรื่องการค้นหาและช่วยเหลือเชลยสงครามชาวรัสเซีย รายงานว่า มีทหารเกณฑ์ของรัสเซีย 115 คนได้รับการปล่อยตัวจากโครงการแลกเปลี่ยนตัวเชลยในครั้งนี้และเดินทางถึงกรุงมอสโกแล้ว
Your browser doesn’t support HTML5
การแลกเปลี่ยนตัวเชลยสงครามครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากยูเครนเริ่มบุกแคว้นเคิร์สกเมื่อสามสัปดาห์ก่อน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กรุงเคียฟเปิดเผยว่า กองทัพยูเครนสามารถจับตัวทหารและพลเรือนรัสเซียได้หลายพันคน
ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวว่า หนึ่งในเป้าหมายหลักของการบุกแคว้นเคิร์สกของรัสเซียคือการเพิ่ม "ขนาดของการแลกเปลี่ยน" และการนำตัวเชลยศึกชาวยูเครนกลับบ้าน
เซเลนสกี กล่าวว่า "ปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดของเราในกระบวนการปลดปล่อยพลเมืองชาวยูเครนทั้งชายและหญิงจากการควบคุมของรัสเซีย โดยเราสามารถจับกุมเชลยชาวรัสเซียได้จำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยใช้ปฏิบัติการลักษณะนี้มา นี่คือผลลัพธ์ที่สำคัญ และนี่คือเป้าหมายของเรา"
และแม้จะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่ามีทหารรัสเซียถูกกองทัพยูเครนจับตัวไว้ระหว่างการบุกแคว้นเคิร์สก ตามคำกล่าวอ้างของผู้นำยูเครนจริงหรือไม่ แต่ชาวยูเครนจำนวนมากต่างเชื่อว่า ปฏิบัติการในแคว้นเคิร์สกที่กำลังเกิดขึ้นนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการนำตัวเชลยสงครามชาวยูเครนกลับบ้านได้มากขึ้น
- ที่มา: แอนนา เชอร์นิโควา/วีโอเอ