โอกาสหวนคืนสู่ทำเนียบขาวของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เจอแรงต้านอีกครั้งกับคดีล่าสุดที่เกี่ยวกับทฤษฎีสมคบคิดที่มีจุดกำเนิดมาจากคำโกหกต่าง ๆ เพื่อหวังล้มผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 และนำมาสู่เหตุก่อจลาจลบุกอาคารรัฐสภาในเวลาต่อมา ขณะที่การปรากฎตัวของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการมารับฟังข้อกล่าวหาคดีล่าสุดที่กรุงวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ก่อน ตามมาด้วยสารพัดประเด็นเกี่ยวกับตัวอดีตผู้นำสหรัฐฯ รายนี้มากมายในช่วงที่ผ่านมา
กรุงวอชิงตันกลายเป็นโจทก์ใหม่ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไปเสียแล้ว หลังจากเขาเดินทางมายังกรุงวอชิงตันเพื่อรับฟังข้อกล่าวหาในคดีล่าสุดที่มีกระทรวงยุติธรรมเป็นโจทก์เมื่อสัปดาห์ก่อน และอดีตผู้นำสหรัฐฯ ไม่ยอมรับผิดต่อข้อหาทั้งหมดในคดีที่ แจ็ค สมิธ อัยการพิเศษของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยื่นฟ้องว่า ทรัมป์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความพยายามพลิกผลเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020
อดีตผู้นำสหรัฐฯ กล่าวหลังจากเครื่องบินส่วนตัวของเขาแตะสนามบินโรนัลด์ เรแกน ในเวอร์จิเนีย ไม่กี่กิโลเมตรจากกรุงวอชิงตันว่า “มันรู้สึกเศร้ามากที่ต้องขับผ่านกรุงวอชิงตัน และได้มองเห็นความสกปรกโสโครกและเสื่อมโทรม และอาคารที่ผุพัง และกำแพงและภาพกราฟฟิตี้ตามผนัง” และว่า “นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ผมจากมา มันเป็นสิ่งที่เศร้าใจมากที่ได้เห็นมัน”
ความเห็นของอดีตปธน.ทรัมป์ สร้างความไม่พอใจกับชาวกรุงวอชิงตัน อย่างส.ส.เอลินอร์ โฮล์มส นอร์ตัน แห่งกรุงวอชิงตัน กล่าวตอบโต้ว่า “เขา(ทรัมป์)เห็นดีซีแค่ไม่ถึงหนึ่งนาที” และว่า “เขาแค่รู้สึกโกรธที่ต้องกลับมาดีซีเท่านั้น” พร้อมกับชี้ว่าเมื่ออดีตปธน.ทรัมป์ออกจากกรุงวอชิงตันในฐานะประธานาธิบดี พื้นที่ย่านใจกลางกรุงวอชิงตันนั้นกลายเป็นเขตที่ล้อมรอบด้วยทหาร โดยมีรั้วลวดหนามกั้นอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ หลังจากผู้สนับสนุนอดีตปธน.ทรัมป์บุกอาคารรัฐสภา เมื่อ 6 มกราคม ปี 2021
และในวันอาทิตย์ อดีตปธน.ทรัมป์ กลับมาโจมตีกรุงวอชิงตันอีกรอบผ่านทรูธ โซเชียล (Truth Social) โดยเรียกร้องให้ทางการเข้ามาจัดการดูแลเมืองหลวงสหรัฐฯ แห่งนี้ และเรียกกรุงวอชิงตันว่า “โสโครกและเต็มไปด้วยอาชญากรรมที่สร้างความอับอายให้แก่ประเทศชาติ” และว่าตนจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในการพิจารณาคดีที่นี่
โบ ชรัฟฟ์ ผู้อำนวยการบริหารแห่ง DC Vote หนึ่งในองค์กรที่ผลักดันให้กรุงวอชิงตันมีสถานะเป็นรัฐ กล่าวกับเอพีว่า “มันเป็นรูปแบบ(ของทรัมป์)ในการใส่ร้ายป้ายสีกรุงวอชิงตัน” และว่า “มันง่ายที่จะใส่ร้ายผู้คนที่ไม่มีสิทธิ์มีเสียงในรัฐบาล” พร้อมทั้งบอกด้วยว่า “เขา(ทรัมป์)ไม่ได้ใช้เวลาอยู่ในเมืองเมื่อแวะมาดีซี เขาอยู่ที่หนึ่งในสองอาคาร นั่นคือ ทำเนียบขาวและโรงแรมของเขา”
ทั้งนี้ กรุงวอชิงตันที่มีผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตเป็นส่วนใหญ่ โดยปกติแล้วจะยอมรับประธานาธิบดีที่มาจากพรรครีพับลิกัน แต่ในยุคของอดีตปธน.ทรัมป์นั้นแตกต่างกว่าที่เคยเป็น เพราะสมาชิกคณะทำงานของอดีตผู้นำสหรัฐฯ รายนี้มักถูกนักเคลื่อนไหวบุกไปต่อว่าวิจารณ์ระหว่างรับประทานอาหารมื้อเที่ยงตามร้านรวงในกรุงวอชิงตัน และอดีตผู้นำรายนี้ได้คะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในกรุงวอชิงตันประมาณ 4% ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 และ 5.4% ในปี 2020
‘ทรัมป์’ ร้องเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาคดีพลิกผลเลือกตั้ง
นอกจากการโพสต์วิจารณ์กรุงวอชิงตันแล้ว อดีตปธน.ทรัมป์ พยายามจะชี้แจงผ่านทรูธ โซเชียล ด้วยว่าผู้พิพากษารัฐบาลกลางที่ถูกสุ่มเลือกมาดูแลการไต่สวนคดีพลิกผลการเลือกตั้งปี 2020 จะไม่มีความยุติธรรมกับเขา โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เขตกรุงวอชิงตัน ทันยา ชัตแคน พร้อมกับเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนตัว นอกจากนี้เขายังแย้งว่าคดีดังกล่าวควรย้ายการพิจารณาออกจากกรุงวอชิงตัน พื้นที่ซึ่งไม่ได้โหวตสนับสนุนเขาในการเลือกตั้งทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผู้พิพากษาชัตแคน ตัดสินโทษจำคุกให้กับผู้สนับสนุนอดีตปธน.ทรัมป์ทั้ง 38 คน จากกรณีผู้สนับสนุนทรัมป์บุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อ 6 มกราคม 2021 เพื่อประท้วงการรับรองชัยชนะของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในเลือกตั้งเมื่อปี 2020
แม้ว่าทนายของอดีตปธน.ทรัมป์ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวตามที่อดีตผู้นำสหรัฐฯ รายนี้เรียกร้องผ่านสื่อสังคมออนไลน์ แต่ทนายของอดีตปธน.ทรัมป์ จอห์น ลอโร เปิดเผยในวันอาทิตย์ว่าควรย้ายการไต่สวนไปที่รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ซึ่งทรัมป์ชนะการเลือกตั้งอย่างง่ายดายเมื่อปี 2020
คดีพยายามพลิกผลการเลือกตั้งถือเป็นคดีที่ 3 ที่อดีตปธน.ทรัมป์ ต้องเผชิญในรอบ 4 เดือนมานี้ โดยคดีก่อนหน้านี้ก็มีทั้งคดีเก็บเอกสารลับโดยมิชอบ คดีปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจ และคดีโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ขณะที่คดีแทรกแซงผลการเลือกตั้งรัฐจอร์เจียอยู่ระหว่างการเตรียมการพิจารณา
ท่ามกลางการดำเนินคดีที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อดีตปธน.ทรัมป์ ยังมีคะแนนนิยมนำห่างผู้ท้าชิงภายในพรรครีพับลิกันรายอื่น ๆ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 อยู่มาก ซึ่งหากเขาได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนรีพับลิกันอีกครั้ง จะถือเป็นนัดล้างตากับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ต้องรักษาเก้าอี้ทำเนียบขาวสมัยที่ 2 เอาไว้ในการเลือกตั้งครั้งนี้เช่นกัน
SEE ALSO: คดีใหญ่ที่ทรัมป์เผชิญมีอะไรบ้าง?ในที่สุด! ‘เดอซานติส’ รับทรัมป์แพ้เลือกตั้ง 2020
ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา รอน เดอซานติส กล่าวยอมรับเป็นครั้งแรกว่าอดีตปธน.ทรัมป์ หนึ่งในคู่แข่งของเขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งเมื่อปี 2020 หลังจากที่เขาพยายามตอบแบบคลุมเครือเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการเลือกตั้งมาโดยตลอด
เดอซานติส กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีว่า “แน่นอนว่าเขา(ทรัมป์)แพ้การเลือกตั้ง” และว่า “โจ ไบเดน คือ ประธานาธิบดี” ซึ่งเป็นการเปลี่ยนท่าทีและตั้งคำถามเกี่ยวกับคำโกหกที่อดีตปธน.ทรัมป์และพันธมิตรกล่าวถึงการเลือกตั้งเมื่อปี 2020
อย่างไรก็ตาม เดอซานติสได้กล่าววิจารณ์การเลือกตั้งทางไปรษณีย์เหมือนกับตัวแทนจากพรรครีพับลิกันรายอื่น ๆ แม้ว่างานวิจัยทางวิชาการจะแสดงให้เห็นว่าการลงคะแนนทางไปรษณีย์ช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แต่จะไม่เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
ในการให้สัมภาษณ์กับเอ็นบีซี เดอซานติส ระบุว่าพรรครีพับลิกันจะพ่ายแพ้การเลือกตั้งในปี 2024 หากยังใส่ใจแต่การเลือกตั้งครั้งก่อนรวมทั้งปัญหาด้านคดีความของอดีตประธานาธิบดีคนเก่าที่ยาวเป็นหางว่าว
และย้ำว่า “หากการเลือกตั้งคือการลงประชามติต่อนโยบายของปธน.ไบเดนและความล้มเหลวที่เราได้เห็น และเราพยายามสะท้อนวิสัยทัศน์เชิงบวกต่ออนาคตของประเทศ เรา(รีพับลิกัน)จะชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี”
- ที่มา: วีโอเอ, เอพี