อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นปรากฎตัวต่อผู้พิพากษาศาลแขวงของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่นครไมอามี รัฐฟลอริดา ในช่วงบ่ายวันอังคาร และกล่าว "ไม่ยอมรับผิด" ต่อข้อกล่าวหาที่ว่า เขาเก็บเอกสารชั้นความลับของทางการสหรัฐฯ หลายร้อยฉบับเอาไว้หลังจากพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว และขัดขวางความพยายามของเจ้าหน้าที่ที่ต้องการนำเอกสารเหล่านั้นกลับมา
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีอเมริกันคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกคณะลูกขุนใหญ่สั่งฟ้อง 37 กระทง สืบเนื่องจากการเก็บเอกสารลับด้านความมั่นคงแห่งชาติเอาไว้ "อย่างจงใจ" ที่บ้านพักมาร์-อะ-ลาโก
ในวันอังคาร ทรัมป์เดินทางไปขึ้นศาลที่ไมอามีท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และมีผู้สนับสนุนทรัมป์หลายร้อยคนรอให้กำลังใจด้านหน้าศาล
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนตนเดินขบวนที่ไมอามี ก่อให้เกิดความกังวลว่าอาจลุกลามไปเป็นความรุนแรง แต่การพิจารณาคดีดำเนินไปอย่างสงบโดยไม่มีเหตุรุนแรงใด ๆ
ทรัมป์ปรากฎตัวต่อผู้พิพากษาศาลแขวง โจนาธาน กู้ดแมน และทนายความของเขากล่าวไม่ยอมรับผิดต่อทุกข้อหาทั้ง 37 กระทง
ในสำนวนการฟ้องร้อง 49 หน้า ทรัมป์ถูกกล่าวหาว่าจงใจยึดครองเอกสารด้านความมั่นคงแห่งชาติ รวมทั้งขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ซุกซ่อนเอกสารของรัฐบาล และให้การบิดเบือนต่อเจ้าหน้าที่สืบสวนของรัฐบาลกลาง
สำนวนคำฟ้องชี้ว่า เอกสารที่ทรัมป์นำออกไปจากทำเนียบขาวตอนพ้นจากตำแหน่งถือเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารที่มีความลับสำคัญที่สุดของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ความเปราะบางของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรต่อการถูกโจมตี และแผนการตอบโต้การโจมตีต่าง ๆ ซึ่งหากถูกเปิดเผยออกไปอาจสร้างอันตรายต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ
สำหรับข้อหาทั้ง 37 กระทงที่ทรัมป์เผชิญนั้น ประกอบด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลลับด้านความมั่นคงแห่งชาติ "อย่างจงใจ" 31 กระทง ซึ่งอาจมีโทษจำคุกถึง 10 ปี รวมทั้งความผิดฐานพยายามปกปิดการเก็บรวบรวมเอกสารเหล่านั้นเมื่อทางการสหรัฐฯ เรียกขอคืน อีก 6 กระทง
สำนวนคำฟ้องยังกล่าวหาด้วยว่า อดีตปธน.สหรัฐฯ ผู้นี้ได้สั่งทนายความของเขาเองไม่ให้เปิดเผยว่า เขามีเอกสารที่คณะลูกขุนกำลังมองหาอยู่ และเมื่อทนายความแนะให้มีการตรวจค้นบ้านพักของเขา ทรัมป์ก็ได้สั่งให้ย้ายเอกสารเหล่านั้นทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจพบ
ทรัมป์กล่าวว่า การฟ้องร้องดำเนินคดีต่อเขาคือการโจมตีทางการเมืองในขณะที่เขากำลังลงสมัครเพื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้งในปีหน้า พร้อมยืนยันว่าจะยังคงลงสมัครเป็นประธานาธิบดีต่อไปแม้จะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีหรือถูกตัดสินว่ามีความผิดก็ตาม
โดยขณะนี้ ทรัมป์มีคะแนนนิยมนำหน้าผู้สมัครคนอื่น ๆ ในพรรครีพับลิกัน จากผลการสำรวจหลายโพลล์
- ที่มา: วีโอเอ