คดีใหญ่ที่ทรัมป์เผชิญมีอะไรบ้าง?

เมื่อวันอังคาร คณะลูกขุนใหญ่ในกรุงวอชิงตันตั้งข้อหาอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าพยายามพลิกผลการเลือกตั้งปธน. เมื่อปี 2020 เพื่อครองเก้าอี้ผู้นำประเทศต่อไป ถือเป็นคดีใหม่ล่าสุดที่ทรัมป์เผชิญ ขณะที่ เขายังคงเดินหน้าหาเสียงเพื่อกลับมาลงเลือกตั้งอีกครั้งในปีหน้า

แจ็ค สมิธ อัยการพิเศษของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เป็นผู้ตั้งข้อหาในสี่คดีใหญ่ของทรัมป์ หลังคณะลูกขุนใหญ่รับฟังข้อมูลพยานจากพันธมิตรใกล้ชิดของทรัมป์เกี่ยวกับความพยายามในการพลิกผลการเลือกตั้งที่อดีตผู้นำสหรัฐฯ แพ้ให้กับ โจ ไบเดน ที่ขึ้นดำรงตำแหน่ง ปธน.ในเดือนมกราคม 2021

รอยเตอร์สรุปคดีอาญาคดีใหญ่ที่ทรัมป์เผชิญทั้งสี่คดีดังต่อไปนี้

คดีโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ

เมื่อวันอังคาร อัยการกล่าวหาทรัมป์ว่า สมรู้ร่วมคิดฉ้อโกงประเทศ ด้วยการกดดันไม่ให้สภาคองเกรสรับรองชัยชนะเลือกตั้งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อปี 2020 และละเมิดสิทธิในการเลือกตั้งอย่างยุติธรรมของผู้ลงคะแนนเลือกตั้ง

ย้อนไปเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ผู้สนับสนุนทรัมป์โจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อพยายามหยุดสภาคองเกรสไม่ให้รับรองชัยชนะของไบเดน โดยอัยการกล่าวว่า ทรัมป์ “หาประโยชน์” จากเหตุดังกล่าว และปฏิเสธคำแนะนำของที่ปรึกษาว่า เขาควรบอกให้ผู้ก่อจลาจลออกจากพื้นที่

อัยการกล่าวต่อว่า ทรัมป์และพันธมิตรยังคงเดินหน้าอ้างว่ามีการโกงเลือกตั้ง แม้จะรู้ว่าข้ออ้างนี้ไม่ใช่เรื่องจริง ขณะที่ คำฟ้องระบุว่า ที่ปรึกษาใกล้ชิดของอดีตปธน. รวมทั้งเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านข่าวกรอง กล่าวกับทรัมป์หลายครั้งว่า ผลการเลือกตั้งเป็นไปอย่างชอบธรรม

ทั้งนี้ ศาลสั่งให้ทรัมป์ปรากฎตัวที่ศาลรัฐบาลกลางในกรุงวอชิงตัน ในวันพฤหัสบดีนี้

คดีเก็บเอกสารลับโดยมิชอบ

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ทรัมป์ไม่ยอมรับผิดต่อศาลรัฐบาลกลางในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ต่อข้อหากรณีที่เขาเก็บข้อมูลความมั่นคงแห่งชาติโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หลังเขาลงจากตำแหน่งเมื่อปี 2021 และกล่าวความเท็จต่อเจ้าหน้าที่ที่ตามหาเอกสารเหล่านี้กลับคืนมา โดยศาลมีนัดพิจารณาคดีดังกล่าวในวันที่ 20 พฤษภาคม 2024

แจ็ค สมิธ อัยการพิเศษ กล่าวหาว่า ทรัมป์ทำให้ความลับของประเทศตกอยู่ในความเสี่ยง โดยนำเอกสารอ่อนไหวหลายพันฉบับมาเก็บไว้กับตัว หลังเขาลงจากตำแหน่งผู้นำประเทศเมื่อเดือนมกราคม 2021 และนำเอกสารมาเก็บอย่างหละหลวมในบ้านพักมาร์-อะ-ลาโก ในรัฐฟลอริดา และที่กอล์ฟคลับของเขาในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ตามข้อมูลในคำฟ้อง

ภาพที่อยู่ในคำฟ้องเผยให้เห็นกล่องเอกสารจำนวนมากถูกเก็บบนเวทีในห้องบอลรูม ในห้องน้ำ และถูกวางกระจัดกระจายบนพื้นห้องเก็บของ โดยข้อมูลในเอกสารมีทั้งข้อมูลลับของโครงการนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ และข้อมูลด้านความอ่อนไหวที่อาจปรากฏขึ้น ในกรณีที่ สหรัฐฯถูกโจมตี

ทั้งนี้ ทรัมป์ถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายการจารกรรมที่กำหนดโทษอาญาต่อการครอบครองข้อมูลความมั่นคงโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาสมรู้ร่วมคิดเพื่อขัดขวางกระบวนการยุติธรรม

เมื่อวันพฤหัสบดี อัยการตั้งข้อหาทรัมป์, วอลท์ นอว์ตา คนรับใช้ของทรัมป์และจำเลยร่วม และคาร์ลอส ดี โอลิเวียรา พนักงานของทรัมป์ ว่า พยายามลบข้อมูลในกล้องวงจรปิดที่บ้านพักมาร์-อะ-ลาโก หลังคณะลูกขุนใหญ่ออกหมายเรียกให้มีการส่งข้อมูลคลิปวิดีโอในกล้อง เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว

อัยการกล่าวหาว่า ดี โอลิเวียรา กล่าวกับพนักงานอีกรายว่า “หัวหน้า” ต้องการให้มีการลบข้อมูลคลิปกล้องวงจรปิดในเซิร์ฟเวอร์ โดย ดี โอลิเวียรา ยังไม่ถึงขั้นตอนการรับสารภาพ

คดีแทรกแซงผลการเลือกตั้งรัฐจอร์เจีย

ฟานิ วิลลิส อัยการเขตปกครองฟัลตัน รัฐจอร์เจีย กำลังสืบสวนว่า ทรัมป์และบุคคลอื่น ๆ พยายามพลิกผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในรัฐจอร์เจีย เมื่อปี 2020 หรือไม่ โดยคาดว่า จะมีการตัดสินใจว่า จะตั้งข้อหาในคดีอาญาต่ออดีตผู้นำสหรัฐฯ หรือไม่ในวันที่ 1 กันยายนนี้

การสืบสวนนี้มุ่งเน้นไปที่บทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างทรัมป์กับแบรด แรฟเฟนสเปอร์เกอร์ เลขานุการรัฐจอร์เจีย โดยทรัมป์ขอให้แรฟเฟนสเปอร์เกอร์ “หา” คะแนนให้มากพอที่จะพลิกผลการเลือกตั้งที่เขาแพ้ในรัฐเจอร์เจียได้

ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายกล่าวว่า ทรัมป์อาจละเมิดกฎหมายอาญาของรัฐจอร์เจียอย่างน้อยสามฉบับ ได้แก่ การสมรู้ร่วมคิดเพื่อทุจริตการเลือกตั้ง การจูงใจให้มีการทุจริตการเลือกตั้ง และการตั้งใจแทรกแซงผลการปฏิบัติหน้าที่ด้านการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ ทรัมป์อาจหาเหตุผลโต้กลับได้ว่า บทสนทนาดังกล่าวเป็นเสรีภาพในการแสดงออกที่ได้รับการคุ้มครองจากรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ

คดีปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจ

คณะลูกขุนใหญ่รัฐนิวยอร์กตั้งข้อหาทรัมป์ว่า ปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ ในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2016

สำหรับรายละเอียดของคดีนี้ ไมเคิล โคเฮน อดีตทนายส่วนตัวของทรัมป์ จ่ายเงิน 130,000 ดอลลาร์ให้ สตอร์มี แดเนียลส์ ดาราหนังผู้ใหญ่ เพื่อให้เธอปิดปากกรณีที่เธอกล่าวว่า เคยมีความสัมพันธ์กับทรัมป์เมื่อปี 2006 โดยอัยการในเขตแมนฮัตตันกล่าวหาว่า ทรัมป์พยายามปกปิดการละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง

ทางฝั่งทรัมป์ไม่ยอมรับผิดกรณีปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจทั้ง 34 ข้อหา และเขายังปฏิเสธว่า ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับแดเนียลส์ แต่ยอมรับว่า เขาชำระเงินคืนให้โคเฮน หลังโคเฮนจ่ายเงินให้แดเนียลส์

อย่างไรก็ตาม โคเฮนยอมรับผิดว่า เขาละเมิดกฎหมายการหาเงินทุนเพื่อหาเสียงเลือกตั้ง รวมถึงความผิดในข้อหาอื่น ๆ และถูกตัดสินจำคุกสามปีเมื่อปี 2018 ในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

ทั้งนี้ ศาลมีกำหนดพิจารณาคดีในวันที่ 25 มีนาคม 2024

• ที่มา: รอยเตอร์