ในเดือนมีนาคม โดนัลด์ ทรัมป์ได้กลายมาเป็นอดีตผู้นำสหรัฐฯ คนเเรกที่ถูกตั้งข้อหาอาญาที่เกี่ยวกับเงินปิดปากดาราหนังวาบหวิว ข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยช่วยหนุนการหาเสียงเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันในการชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
และเมื่อทรัมป์ ถูกคณะลูกขุนตัดสินให้เดินเรื่องตั้งข้อหาเขาอีกครั้งในสัปดาห์นี้จากกรณีที่ทรัมป์ไม่ส่งคืนเอกสารชั้นความลับให้กับทางการหลังจากพ้นการดำรงตำแหน่งไปแล้ว จึงเกิดคำถามขึ้นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไร
ในครั้งล่าสุดนี้ทรัมป์ถูกตั้งข้อหาอาญา 7 กระทงความผิด ซึ่งรวมถึงสมคบคิดและขัดขวางกระบวนการยุติธรรม รวมถึงการจงใจเก็บเอกสารด้านความมั่นคงแห่งชาติ
แทบจะทันทีหลังจากที่เขาถูกตั้งข้อกล่าวหาในครั้งนี้ เกิดสัญญาณชัดเจนว่าผู้มีสิทธิ์ออกเสียงที่นิยมพรรครีพับลิกันยังอาจสนับสนุมทรัมป์ต่อไป
ผู้สันทัดกรณีเรื่องการทำโพลล์ นีล นิวเฮาส์ของพรรครีพับลิกันกล่าวว่า การตั้งข้อหาทรัมป์เรื่องเอกสารราชการชั้นความลับไม่น่าสร้างความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญต่อการเลือกตั้งตัวแทนพรรครีพับลิกันลงสมัครเป็นประธานาธิบดีในปีหน้า โดยทรัมป์ยังมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง
เขากล่าวว่า อันที่จริง ในอดีตข่าวแบบนี้อาจสามารถทำให้นักการเมืองหมดอนาคตในการแข่งขันเป็นประธานาธิบดีตั้งแต่เริ่มต้น แต่เรื่องราวแตกต่างออกไปสำหรับทรัมป์เพราะว่าเขาทำให้คนคิดไปก่อนแล้วว่าเขาจะถูกตั้งข้อหาเพิ่ม
“ความคิดของผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวรีพับลิกันจำนวนมากคือเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเมืองล้วน ๆ” นิวเฮาส์กล่าว
นั่นยังหมายความเช่นกันด้วยว่าทรัมป์ แม้ว่าจะถูกตั้งข้อหาสองครั้ง ยังมีอิทธิพลต่อพรรครีพับลิกันอย่างมาก และรวมถึงอิทธิพลของเขาต่อธรรมเนียมประชาธิปไตยในสหรัฐฯ
การที่ทรัมป์ยังเป็นที่นิยมอยู่ยังสะท้อนถึงความไม่พอใจของชาวรีพับลิกันที่มีต่อรัฐบาลกลางโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นเป้าของคำวิจารณ์จากทรัมป์มานานหลายปี
อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่สามารถสรุปได้ว่า ความนิยมของทรัมป์จากบรรดาแฟน ๆ ชาวรีพับลิกันจะแปลว่า เขาจะได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากประชาชนโดยรวมของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ไม่สังกัดพรรคใด และที่มีแนวคิดสายกลางทั้งจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน
ดังนั้นจึงไกลเกินกว่าที่จะบอกว่า ประชาชนจะให้อภัยทรัมป์จากข้อหาเหล่านั้น ถ้าเขาต้องแข่งเป็นประธานาธิบดีกับโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบัน
ไบเดนประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งเหนือทรัมป์ เมื่อ 3 ปีก่อนด้วยการสัญญากับประชาชนว่าจะนำความเป็นปกติกลับคือมาสู่การเมืองกรุงวอชิงตัน หลังจากที่ฝ่ายบริหารของประเทศภายใต้ทรัมป์ อยู่กับดราม่ามากมาย
และเมื่อทรัมป์โดนตั้งข้อหาเพิ่ม จุดอ่อนเดิมเรื่องภาพลักษณ์ที่เคยทำให้เขาแพ้เลือกตั้งปี 2020 อาจกลับมาบั่นทอนทรัมป์ใหม่ได้เช่นกัน
นอกจากคดีความซึ่งทำให้เขาโดนตั้งข้อหาในตอนนี้ อดีตประธานาธิบดีทรัมป์อาจถูกตั้งข้อหาเพิ่มในรัฐจอร์เจีย และกรุงวอชิงตัน ซึ่งอาจทำให้เขาต้องถูกดำเนินคดีใน 4 เขตการปกครองที่แตกต่างกัน ขณะที่ก็ต้องหาเสียงไปในเวลาเดียวกัน
- ที่มา: เอพี