ขณะที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 100 วันก็จะเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้สมัครที่ขับเคี่ยวกันเป็นผู้นำประเทศ อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และรองปธน.คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมเเครตจึงต่างเร่งเครื่องหาเสียงกันอย่างหนัก
ที่การปราศรัย ในเมืองเซนต์คลาวด์ รัฐมินเนโซตา อดีตปธน.ทรัมป์ยกระดับการโจมตีคู่เเข่งจากเดโมเเครต
"เรามีเหยื่อรายใหม่แล้ว คามาลา... เรามีเหยื่อรายใหม่เเล้ว...พูดตรง ๆ เธอเป็นคนเสียสติที่ซ้ายจัด" ทรัมป์กล่าว
ส่วน สว.เจ ดี เเวนซ์ ที่เป็นแคนดิเดตตำแหน่งรองปธน. จากพรรคเดียวกัน กล่าวว่า แม้แฮร์ริสจะได้รับ "กระแสสนับสนุนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงเปิดตัว" แต่เชื่อว่ากระแสนั้นจะค่อย ๆ จางหายไปเมื่อประชาชนรับรู้ถึงสิ่งที่เธอได้กระทำมา "เมื่อพวกเขารู้ว่าเธอสุดโต่งมากแค่ไหน"
รองปธน.แฮร์ริสมีโอกาสตอบโต้ระหว่างการหาเสียงที่เมืองพิตส์ฟีลด์ รัฐเเมสซาชูเสตส์
เธอกล่าวกับผู้มาฟังคำปราศรัยว่า "พวกคุณอาจจะทราบแล้วว่าโดนัลด์ ทรัมป์ อาศัยคำโกหกเเบบหลุดโลกเกี่ยวกับดิฉัน และบางอย่างที่เขาและผู้ร่วมลงสมัครของเขาพูดออกมา มันช่างประหลาดดีเเท้"
ทีมงานหาเสียงของแฮร์ริสกล่าวว่าเธอสามารถระดมทุนได้มากถึง 200 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่ปธน.โจ ไบเดนประกาศสนับสนุนให้เธอลงสมัครเป็นผู้นำสหรัฐฯ ในการเลือกตั้ง 5 พ.ย. นี้
ในจำนวนผู้ร่วมให้เงินแฮร์ริส 66% เป็นคนที่เพิ่งบริจาคครั้งเเรก
SEE ALSO: 'แฮร์ริส' ทำสถิติระดมทุนหาเสียง $200 ล้านในสัปดาห์เดียวสัญญาณดังกล่าวเเสดงให้เห็นถึงความคึกคักต่อการลงเเข่งเป็นปธน. ของแฮร์ริส แต่ผู้ว่าการรัฐนิวแฮมเชอร์ คริส ซูนูนู ซึ่งสังกัดพรรครีพับลิกัน กล่าวในรายการ This Week ของช่อง ABC เมื่อวันอาทิตย์ว่ากระเเสที่ว่านี้น่าจะแผ่วลงภายใน 30 วัน
ซูนูนูเเนะนำว่า ทรัมป์และเเวนซ์ ควรเลี่ยงการโจมตีคู่เเข่งในเรื่องส่วนบุคคล และให้เน้นหาเสียงเชิงนโยบายมากกว่า
ซูนูนูกล่าวว่า "ขอให้ยึดกับสิ่งที่กำลังทำให้ประชนชนกระวนกระวายใจ ประชาชนกังวลในตอนนี้เพราะพวกเขาไม่สามารถรับภาระรายจ่ายได้... พวกเขากระวนกระวายใจเพราะเขาไม่รู้สึกปลอดภัยในบ้านของเขา ในชุมชนของเขา สิ่งเหล่านี้คือเเรงขับคลื่นให้เขาไปโหวตให้ทรัมป์ในเดือนพฤศจิกายน"
อีกด้าหนึ่ง เวส มอร์ ผู้ว่าการรัฐเเมรีเเลนด์ จากพรรคเดโมเเครตกล่าวในรายการเดียวกับซูนูนูว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ยังไม่ได้ตัดสินว่าจะโหวตให้ใครในรัฐที่มีการเเข่งขันสูงน่าจะหันมาสนใจแฮร์ริส เพราะวิสัยทัศน์ของเธอต่ออนาคตของประเทศ
"ผมคิดว่าสิ่งที่คนกำลังพูดถึงตอนนี้คือ ในที่สุดเเล้วเราสามารถคุยกันได้ถึงทางเลือกที่คนมีในการเลือกตั้งครั้งนี้...มันไม่ใช่เเค่ประชาธิปไตยเท่านั้นที่จะกำลังยืนอยู่บนเส้นด้าย แต่รวมถึงค่านิยมพื้นฐาน และแนวความคิดเกี่ยวกับเสรีภาพทางเศรษฐกิจด้วย" มอร์กล่าว
อีกไม่กี่วันจากนี้แฮร์ริสน่าจะประกาศว่าใครจะลงเเข่งคู่กับเธอในตำแหน่งรองประธานาธิบดี ก่อนการประชุมใหญ่พรรคเดโมเเครตที่นครชิคาโกในเดือนสิงหาคม
ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ จูน สปีคเเมนแห่งมหาวิทยาลัย Roger Williams ที่เป็นผู้เเทนในสภาของรัฐโรดไอส์แลนด์ กล่าวว่า ปกติเเคนดิเดตที่จะมาลงคู่กันจะเป็นบุคคลที่ทำให้เกิดความสมดุล คือมาเสริมในส่วนที่อีกคนหนึ่งขาด
เธอกล่าวว่าเหตุผลเรื่องเขตต้นสังกัดของเเคนดิเดตมักจะมีนำ้หนักที่สำคัญ
สปีคเเมนยกตัวอย่างว่า เนื่องจากแฮร์ริสมาจากฝั่งตะวันตกของประเทศ เธออาจจะมองหาเเคนดิเดตรองประธานาธิบดีที่มากจากรัฐในเขตมิดเวสต์ที่อยู่ตอนกลางค่อนไปทางตะวันตก เป็นต้น
สำหรับทรัมป์ ที่เลือกเเวนซ์มาลงคู่กัน สปีคเเมนกล่าวว่า สว.ผู้นี้มาช่วยสร้างสมดุลให้กับฝั่งรีพับลิกันเนื่องจากเเวนซ์มีอายุน้อยกว่าทรัมป์มาก
ในสัปดาห์นี้ แฮร์ริสจะหาเสียงที่นครแอตเเลนตารัฐจอร์เจีย ขณะที่ทีมของทรัมป์ระบุผ่านเว็บไซต์ว่าจะจัดงานที่รัฐเพนซิลเวเนีย เนวาดาและแอริโซนา
- ที่มา: วีโอเอ