ยูเครนรายงานว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธเข้าใส่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองลวิฟ ทางตะวันตกของประเทศ ในวันพฤหัสบดี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 รายและบาดเจ็บอีก 9 ราย
อันดรีย์ ซาดอฟยี นายกเทศมนตรีเมืองลวิฟ กล่าวว่า ขีปนาวุธลูกล่าสุดจากรัสเซียยังสร้างความเสียหายให้กับอพาร์ตเมนต์อีกราว 60 แห่งและรถยนต์จำนวน 50 คันด้วย พร้อมชี้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นกับโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนของประเทศ นับตั้งแต่มอสโกทำการรุกรานยูเครนเมื่อต้นปีที่แล้ว
ในเรื่องนี้ ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ระบุในโพสต์ทางแอปเทเลแกรมว่า “จะต้องมีการโต้ตอบไปยังศัตรูอย่างแน่นอน [เป็นการตอบโต้]ที่แจ่มแจ้งชัดเจน”
เมืองลวิฟนั้นตั้งอยู่ที่แนวชายแดนของยูเครนที่ติดกับโปแลนด์ และห่างไกลจากแนวหน้าของการรบในภาคตะวันออกและภาคใต้ของประเทศซึ่งมีรายงานการต่อสู้ระหว่างกองกำลังกรุงเคียฟและกองทัพมอสโกเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การโจมตีโต้กลับของยูเครน
ในการสัมภาษณ์กับสื่อซีเอ็นเอ็น (CNN) ที่ออกอากาศเมื่อวันพุธ ปธน.เซเลนสกี กล่าวว่า ตนต้องการจะดำเนินการโจมตีโต้กลับตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่ปฏิบัติการนี้ต้องรอความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐฯ และหุ้นส่วนในยุโรปก่อนจะเกิดขึ้นได้
ยูเครนทำการโจมตีโต้กลับรัสเซียมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว โดยมีเป้าหมายที่จะยึดคืนอาณาเขตที่รัสเซียเข้าควบคุมตั้งแต่ทำการรุกรานประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนพยายามเร่งจัดหากระสุนและอาวุธล้ำสมัยต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศและเครื่องบินรบ มาโดยตลอด เพื่อจะได้มีศักยภาพเพียงพอรับมือกับความสามารถทางทหารของรัสเซีย
ในประเด็นนี้ ปธน.เซเลนสกี ระบุระหว่างการสัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นด้วยว่า “ผมต้องการให้การโจมตีโต้กลับของเราเกิดขึ้นเร็วกว่านี้มาก เพราะทุกคนเข้าใจดีว่า ถ้าหากมีการเปิดฉากการโจมตีโต้กลับช้าไป จะมีการติดทุ่นระเบิดในพื้นที่อาณาเขตของเราเพิ่มขึ้น” และว่า “เราให้เวลาและความน่าจะเป็นกับศัตรูของเรา เพื่อติดตั้งทุ่นระเบิด และเพื่อเตรียมแนวตั้งรับของพวกเขา”
ผู้นำยูเครนยังย้ำจุดยืนของตนด้วยว่า ยูเครนควรได้รับเครื่องบินรบ เอฟ-16 มาช่วยในการรบ พร้อมชี้ว่า การมีเครื่องบินรบรุ่นนี้ไม่ได้เพียงเพราะยูเครนต้องการได้ความได้เปรียบในการสู้รบทางอากาศ แต่เป็นเรื่องของ “การทัดเทียม” กับกองกำลังรัสเซียมากกว่า
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เดนมาร์กประกาศว่า ฝ่ายตนได้เริ่มทำการอบรมนักบินยูเครนในการขับเครื่องบิน เอฟ-16 แล้ว
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเรจิบ เทยิบ เออร์โดวาน แห่งตุรกี เปิดเผยว่า สวีเดนได้เดินหน้า “ไปในทิศทางที่ถูกต้อง” ในการตอบรับประเด็นความกังวลของตุรกี เพื่อให้ได้แรงสนับสนุนสวีเดนเข้าเป็นสมาชิกองค์การนาโต้ แต่ผู้นำตุรกีย้ำว่า การที่องค์กรซึ่งรัฐบาลอังการาถือว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย ออกมาแสดงจุดยืนต่าง ๆ ในที่สาธารณะนั้น “ได้ลบล้างก้าวย่างทุกก้าวที่[สวีเดน]เดินหน้ากระทำไป” แล้ว
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์