ภาคตะวันออกยูเครนสู้รบอย่างหนัก
ยูเครนเปิดเผยในวันจันทร์ว่า ทหารยูเครนสามารถยึดพื้นที่คืนมาได้อีก 37 ตารางกิโลเมตรทางภาคตะวันออกและภาคใต้ ซึ่งกำลังเกิดการต่อสู้อย่างหนักหน่วงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
รองรัฐมนตรีกลาโหมยูเครน ฮานนา มาลิอาร์ ระบุทางเทเลแกรมว่า ทหารยูเครนสามารถรุกคืบไปได้มากในสมรภูมิบาคห์มุตทางตะวันออก ขณะที่รัสเซียโหมโจมตีใส่เมืองลีแมน แอดวิฟกา และมารินกา ซึ่งกำลังเกิดการต่อสู้อย่างหนักในเมืองเหล่านั้น
รองรัฐมนตรีมาลิอาร์ กล่าวว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ที่ยูเครนยึดคืนมาได้อยู่ทางภาคใต้ โดยกองทัพยูเครนได้เริ่มปฏิบัติการในเมืองเมลิโตโพลและเบอร์ดิยานสก์แล้วเช่นกัน
ยูคเรนเริ่มการโจมตีโต้กลับตั้งแต่เดือนมิถุนายนเพื่อยึดพื้นที่คืนจากรัสเซีย และสามารถยึดหมู่บ้านคืนมาได้แล้วหลายแห่งในช่วงเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
โปแลนด์ส่งทหารป้องกันชายแดนติดเบลารุส
ทางการโปแลนด์เผยว่า จะส่งทหาร 500 คนไปยังพรมแดนติดกับเบลารุสเพื่อป้องกันด้านความมั่นคงตลอดแนวชายแดน
รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในโปแลนด์ มาเรียสซ์ คามินสกี ทวีตในวันอาทิตย์ว่า "เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณพรมแดนติดเบลารุส จึงได้ตัดสินใจเพิ่มกำลังทหารด้วยการส่งเจ้าหน้าที่ 500 คนจากหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายและควบคุมการจลาจล ไปยังบริเวณพรมแดนดังกล่าว"
เจ้าหน้าที่กำลังเสริมเหล่านั้นจะร่วมทำหน้าที่ป้องกันแนวชายแดนกับทหารโปแลนด์อีกกว่า 5,000 คน โดยโปแลนด์กล่าวหาเบลารุสว่าทำให้เกิดวิกฤตผู้ลี้ภัยเมื่อ 2 ปีที่แล้วด้วยการผลักดันผู้ลี้ภัยจากตะวันออกกลางและแอฟริกาเข้าไปในโปแลนด์
ไบเดนเยือนยุโรป 3 ประเทศ
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน จะเดินทางเยือนยุโรป 3 ประเทศในสัปดาห์หน้า เพื่อกระชับความร่วมมือของพันธมิตรต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย และสนับสนุนความช่วยเหลือให้แก่ยูเครน
ทำเนียบขาวเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า ไบเดนจะเริ่มเยือนกรุงลอนดอนในวันที่ 9 ก.ค. โดยจะเข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 และจะหารือกับนายกรัฐมนตรี ริชี ซูแน็ก เพื่อกระชับสัมพันธ์ของสองประเทศ
จากนั้นไบเดนจะร่วมประชุมสุดยอดองค์การนาโต้ที่ลิทัวเนียในวันที่ 11-12 ก.ค. เพื่อหารือเรื่องการสนับสนุนด้านการทหารให้แก่ยูเครนเพื่อยึดพื้นที่คืนจากการครอบครองของรัสเซีย
ต่อจากลิทัวเนีย ไบเดนจะเดินทางไปยังฟินแลนด์ เพื่อแสดงความยินดีที่ฟินแลนด์เข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การนาโต้เมื่อเดือนเมษายน ซึ่งทำให้พรมแดนของสมาชิกนาโต้ที่ติดกับรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
- ข้อมูลจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์