รัสเซียประกาศพร้อมเป็นประเทศแรกที่จะอนุมัติให้ใช้วัคซีนโควิด-19 ได้ โดยรัสเซียคาดว่าจะเริ่มการผลิตขนานใหญ่ได้ในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ ถึงแม้วัคซีนโควิด-19 ของรัสเซียที่กำลังพัฒนาอยู่ จะยังไม่ผ่านการทดลองมนุษย์ที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจำนวนมาก หรือที่เรียกว่าการทดลองเฟส 3 ก็ตาม
รัสเซียเริ่มการทดลองวัคซีนสำหรับโควิด-19 ในเฟสที่หนึ่ง กับอาสาสมัคร 76 คน เมื่อกลางเดือนมิถุนายน โดยในบรรดาอาสาสมัครเหล่านี้ส่วนหนึ่งเป็นทหารในกองทัพ ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาสาสมัครส่วนหนึ่งจะถูกบังคับหรือไม่ และขณะนี้สถาบันวิจัย Gamaleya ของรัสเซียก็ยังไม่ได้ตีพิมพ์เผยแพร่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดๆ จากการทดลองที่ว่านี้ ส่วนองค์การอนามัยโลก ระบุว่า สถานะการทดลองวัคซีนโควิด-19 ของรัสเซียตามที่รายงานขณะนี้ยังอยู่ที่เฟสหนึ่งเท่านั้น
วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่รัสเซียกำลังพัฒนาดังกล่าว อาศัยไวรัสของโรคหวัดธรรมดาที่ถูกปรับแต่งยีนให้มีโปรตีนที่เป็นหนามคล้ายกับไวรัสโควิด-19 เพื่อกระตุ้นร่างกายให้ตอบสนองหากได้รับไวรัสโควิด-19 จริง และเทคนิคดังกล่าวก็คล้ายกับที่บริษัท CanSino Biologics ของจีน และที่มหาวิทยาลัย Oxford รวมทั้งบริษัท AstraZeneca ของอังกฤษกำลังพัฒนาอยู่เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคน อย่างเช่น นายโทมัส โบลิกี้ ผู้อำนวยการฝ่ายสุขภาพระดับโลกของ Center on Foreign Relations เตือนว่า การนำวัคซีนที่ยังไม่ผ่านกระบวนการทดสอบอย่างเหมาะสมมาใช้ นอกจากจะสร้างอันตรายต่อผู้รับได้แล้ว ยังอาจสร้างความรู้สึกว่าปลอดภัยอย่างผิดๆ และทำให้มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงโดยไม่ควร รวมทั้ง อาจทำลายความเชื่อมั่นในหมู่สาธารณะชนเกี่ยวกับวัคซีนได้หากมีผลเสียเกิดขึ้น
แต่ถึงแม้รัสเซียจะประกาศว่าจะอนุมัติให้ใช้วัคซีนโควิด-19 อย่างรวดเร็ว แม้จะยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยันก็ตาม ขณะนี้ก็มีบางประเทศอย่างเช่นบราซิลและอินเดียที่แสดงความสนใจในวัคซีนดังกล่าวแล้ว