Your browser doesn’t support HTML5
ในปีนี้ ระบบขนส่งมวลชนของฟิลิปปินส์เกิดปัญหาหลายระลอกจาก การผละงานประท้วงของผู้ขับรถบัสขนาดเล็กที่เรียกว่า Jeepney ซึ่งยังหาข้อตกลงไม่ได้กับรัฐบาล
ฝ่ายรัฐต้องการให้ผู้ขับรถเปลี่ยนพาหนะที่ถูกใช้มานานหลายปี และก่อปัญหามลพิษทางอากาศ แต่ผู้ขับรถไม่เห็นด้วยที่ทางการไม่สนับสนุนด้านการเงินในการรณรงค์ครั้งนี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้ขับรถ Jeepney จำนวนหลายพันคนหยุดให้บริการ ขณะที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศให้โรงเรียนและสถานที่ทำงานปิดทำการชั่วคราว เนื่องจากการผละงานประท้วงนี้ทำให้คนจำนวนมากขาดบริการขนส่งมวลชนที่พวกเขาพึ่งพาทุกวัน
ก่อนหน้าในปีนี้มีการหยุดให้บริการโดยผู้ประกอบการรถ Jeepney มาแล้วสองครั้ง
รถ Jeepney มีประวัติยาวนานคู่กับประเทศฟิลิปปินส์ จนเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของประเทศก็ว่าได้
ยานพาหนะนี้ถูกพัฒนาขึ้น หลังจากการสิ้นยุคอาณานิคมอเมริกันในฟิลิปปินส์เมื่อ 71 ปีก่อน ผู้คนสามารถโบกเรียกรถสีสันสดใสนี้ได้จากข้างทางโดยเก็บค่าโดยสารราคาพอๆ กับรถเมล์ของประเทศไทย คือประมาณ 5 ถึง 10 บาทขึ้นไป ภายในมีที่นั่งสองฝั่งตามยาวซึ่งคล้ายรถสองแถวที่เรารู้จักกัน
ในเมืองต่างๆ รถโดยสารชนิดนี้เป็นช่องทางคมนาคมหลักของประชาชนเพราะบริการขนส่งระบบรางและรถเมล์ยังคงมีไม่ทั่วถึง สำหรับการเก็บเงิน ผู้โดยสารด้วยกันเองจะส่งต่อเงินผ่านมือกันไปจนถึงคนขับรถ
เมื่อปลายปีที่แล้ว รัฐบาลฟิลิปปินส์อนุมัติแผนสร้างความทันสมัยให้แก่บริการรถ Jeepney โดยระบุว่าต้องมีการเปลี่ยนรถชนิดนี้ที่มีอายุมากกว่า 15 ปีมาเป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์ที่ช่วยลดมลพิษ รวมถึงการใช้พลังงานแสงอาทิตย์มาใช้
อย่างไรก็ตาม อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์ Maria Ela Atienza แห่งมหาวิทยาลัย University of the Philippines Diliman กล่าวว่า รัฐบาลยังไม่ได้เสนอแนวทางสนับสนุนด้านการเงินต่อผู้ประกอบการที่ต้องเปลี่ยนหรือปรับปรุงรถ และยังไม่ได้หาทางออกให้กับแผนขึ้นค่าบริการ
ในความเห็นของอาจารย์ Atienza ดูเหมือนว่ารัฐบาลฟิลิปปินส์พร้อมเดินหน้ากับแผนปฏิรูปรถ Jeepney นี้ในเดือนมกราคมปีหน้า โดยไม่คำนึงถึงอนาคตของผู้ประกอบการ เธอบอกว่าคนขับรถจำนวนมากอาจจะต้องตกงาน เพราะขาดทุนทรัพย์ในการเปลี่ยนรถใหม่
นักวิเคราะห์คาดว่าน่าจะยังคงมีการผละงานประท้วงของผู้ขับรถ Jeepney อีกหลายรอบในช่วงที่เหลือของปีนี้ ไปจนกว่าฝ่ายรัฐบาลและผู้ประกอบการจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้
ทั้งนี้กรุงมะนิลาจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดสมาคมอาเซียน 10-14 พฤศจิกายนนี้ และหากงานนี้ตรงกับการหยุดงานประท้วงของผู้ขับรถ Jeepney การจราจรที่ขึ้นชื่อว่าติดสาหัสอาจเบาบางลง เมื่อผู้ร่วมประชุมหลั่งไหลเข้ามาในเมืองหลวงของฟิลิปปินส์
(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของ Ralph Jennings)