จีนเพิ่มการสนับสนุนให้กับฟิลิปปินส์ รวมถึงแผนสำรวจปิโตรเลียมร่วมกัน และการให้อาวุธยุทโธปกรณ์ต่อรัฐบาลกรุงมะนิลาในการต่อสู้กับกลุ่มมุสลิมติดอาวุธภายในประเทศ
ขณะนี้มีบริษัทพลังงานจีนสามแห่ง รวมถึง CNOOC ที่รอการลงนามอนุมัติโครงการขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งด้านตะวันตกของฟิลิปปินส์ จากประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต้ เพื่อเริ่มโครงการสำรวจน้ำมันในบริเวณ 7,120 ตารางกิโลเมตร
และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการฟิลิปปินส์ประกาศว่าจีนมอบปืนกล 3 พันกระบอกและกระสุน 3 ล้านนัด ในภารกิจปราบปรามกบฏ ‘เมาเต้’ ที่ฝักใฝ่ กลุ่มรัฐอิสลามไอเอส
การร่วมมือนี้เกิดขึ้น แม้ว่าทั้งสองประเทศจะเป็นคู่กรณีกันในข้อพิพาททางดินแดนในทะเลจีนใต้
นักวิเคราะห์ Ramon Casiple ผู้อำนวยการบริหาร ของสถาบัน Political and Electoral Reform กล่าวว่า ชาวฟิลิปปินส์มองปัญหาด้านดินแดนในทะเลจีนใต้ด้วยความคิดชาตินิยม แต่ก็ไม่ปฏิเสธความเป็นมิตรกับจีนในเรื่องต่างๆ
รัฐบาลปักกิ่งพยายามสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งขึ้นกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อลดความตึงเครียดในภูมิภาคนี้ หลังจากที่ศาลระหว่างประเทศตัดสินเมื่อกลางปีที่แล้วว่าข้ออ้างกรรมสิทธิ์ของจีนเหนือพื้นที่ในทะเลจีนใต้ขาดน้ำหนักทางกฎหมาย
จีนกำลังยื่นข้อเสนอและเงินลงทุนต่อประเทศคู่กรณี รวมทั้ง บรูไน มาเลเซีย และเวียดนาม นอกจากฟิลิปปินส์
ประธานาธิบดีดูเตอร์เต้ยินดีที่ได้รับข้อเสนอจากจีนด้วยความกระตือรือร้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเดินนโยบายเป็นเอกเทศมากขึ้นจากสหรัฐฯ พันธมิตรเก่าแก่ของรัฐบาลมะนิลา
นักวิเคราะห์จากธนาคาร CIMB ที่สิงคโปร์ Song Seng Wun กล่าวว่า ผู้นำฟิลิปปินส์ต้องการสร้างไมตรีกับจีน โดยมีเป้าหมายเรื่องการปรับดุลยภาพกับอเมริกาไปในเวลาเดียวกัน
การเดินนโยบายดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ประธานาธิบดีดูเตอร์เต้ ไม่พอใจสหรัฐฯ ที่วิจารณ์ฟิลิปปินส์เรื่องการปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดด้วยวิธีรุนแร
อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้นำฟิลิปปินส์เสนอความร่วมมือทางเศรษฐกิจต่อสหรัฐฯ และสหรัฐฯ ร่วมลาดตระเวนทางทะเลกับฟิลิปปินส์ และส่งกองกำลังพิเศษจำนวน 50 ถึง 100 คนร่วมปฏิบัติการปราบกบฏ ‘เมาเต้’ บนเกาะมินดาเนา ทางด้านใต้ของฟิลิปปินส์ มาตั้งแต่ 15 ปีก่อนอย่างต่อเนื่อง
ผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนฟิลิปปินส์โดย Pew Research พบว่าทัศนคติที่ดีต่อจีนเพิ่มขึ้น 14 เปอร์เซ็นต์ ช่วงสามปีที่ผ่านมา ในทางกลับกัน ทัศนคติด้านบวกต่ออเมริกาลดลงจากร้อยละ 92 มาเป็นร้อยละ 78 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของผู้สื่อข่าว Ralph Jenning)