ฟิลิปปินส์เร่งยกระดับการป้องกันน่านน้ำ หวังสกัดยาเสพติด-กบฎหัวรุนแรง

The U.S. Coast Guard National Security Cutter Bertholf (WMSL 750), left, and the Philippine Coast Guard ship BRP Batangas arrive Wednesday, May 15, 2019 in Manila, Philippines, after taking part in a joint exercise off the South China Sea. (AP Photo/Bulli

Your browser doesn’t support HTML5

Business News


ฟลิปปินส์ได้ริเริ่มการลาดตระเวนทางน้ำ ในทะเล ซูลู ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นสัญญาณที่นักวิเคราะห์มองว่าฟิลิปปินส์ได้เร่งเสริมความแข่งแกร่งในการป้องกันประเทศมากขึ้น

สาเหตุสำคัญมาจากภัยคุกคามทางทะเลที่มาจากภายนอก โดยเฉพาะปัญหาการลักลอบขนยาเสพติด การเดินทางทางทะเลของกบฎชาวมุสลิมหัวรุนแรงที่ก่อความไม่สงบทางตอนใต้ของประเทศ และการแผ่ขยายเข้ามาของเรือสัญชาติจีนในทะเลจีนใต้ พื้นที่พิพาทของทั้งสองประเทศ

ก่อนหน้านี้ ฟิลิปปินส์ถือว่ามีกลไกการป้องกันประเทศที่ค่อนข้างอ่อนแอ โดยเฉพาะการป้องกันภัยทางทะเล เว็บไซต์ GlobalFirePower.com ให้คะแนนความแข็งแกร่งของกองกำลังของฟิลิปปินส์อยู่ในอันดับที่ 64 ของโลก เป็นรองเพื่อนบ้านอย่าง จีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไต้หวัน และเวียดนาม

วาระสำคัญของประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต้ คือการทำสงครามเพื่อปราบปรามยาเสพติด ดูเตอร์เต้เคยกล่าวไว้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า ปัญหาการใช้สารเสพติดผิดกฎหมายได้ทวีความรุนแรงขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในประเทศ

เมื่อสัปดาห์ก่อน กองกำลังรักษาการณ์ชายฝั่งของฟิลิปปินส์รายงานว่าได้ควบคุมตัวกัปตันและลูกเรือที่ขน “สารที่เป็นอันตราย” กว่า 53,000 ตันจากประเทศเกาหลีใต้

เอดัวร์โด อาราราล (Eduardo Araral) นักวิชาการแห่งมหาวิทยาลัย National University of Singapore ให้ความเห็นว่า ดูเตอร์เต้อาจจะตระหนักแล้วว่า เขาไม่สามารถเป็นผู้ชนะในสงครามกวาดล้างยาเสพติด หากไม่สามารถหยุดการทะลักเข้ามาของยาเสพติดจากประเทศในแถบละตินอเมริกา และประเทศลุ่มแม่น้ำแม่โขงได้ ดังนั้น การพัฒนาศักยภาพของกองกำลังรักษาการณ์ชายฝั่ง จึงเป็นเรื่องที่จำเป็น

นอกจากนี้ ดูเตอร์เต้ยังบอกว่า สมาชิกกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ใช้ช่องทางทะเลซูลู เพื่อเดินทางไปพบปะกับกลุ่มกบฎต่อต้านรัฐบาลในตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุความไม่สงบมาเป็นเวลาเกือบ 60 ปี และยังมีความรุนแรงปะทุอยู่เป็นระยะ ๆ

เรือหลายร้อยลำของจีนที่เข้ามาในบริเวณจีนใต้ ใกล้กับเกาะเล็กเกาะน้อยของฟิลิปปินส์ เป็นอีกหนึ่งความกังวลใจของรัฐบาลกรุงมะนิลา เนื่องจากทั้งสองมีข้อพิพาทเรื่องอาณาเขตในทะเลจีนใต้

นักวิเคราะห์มองว่า ภัยคุกคามเหล่านี้เป็นแรงผลักดันให้ฟิลิปปินส์หันไปพัฒนากองทัพ และที่ผ่านมามีสัญญาณที่ดีหลายอย่าง เช่น การที่ดูเตอร์เต้จัดสรรงบกลาโหมประมาณ 5,600 ล้านดอลล่าร์ ในช่วงเวลา 3 ปี และการทำข้อตกลงร่วมการลาดตระเวนในทะเลซูลูกับประเทศ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย

ภาระกิจป้องกันประเทศยังได้รับการ “เร่งเครื่อง” มากขึ้น หลังจากที่สหรัฐฯ ได้บริจาคยุทโธปกรณ์ และช่วยสร้างศูนย์การเรียนรู้ให้กองกำลังรักษาการณ์ชายฝั่งของฟิลิปปินส์

ในขณะที่ญี่ปุ่นสัญญาว่าจะมอบเรือลาดตระเวนสองลำ และให้กรุงมะนิลายืมเครื่องบินสอดส่องอีก 5 ลำ เพราะญี่ปุ่นเองก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ไม่ต้องการเห็นจีนเข้ามาใกล้เกินไปในน่านน้ำที่ล้อมรอบฟิลิปปินส์