ผู้ว่าการรัฐเเคลิฟอร์เนีย เเกวิน นิวซัม ออกคำสั่งฝ่ายบริหารในวันพฤหัสบดี เพื่อให้หน่วยงานของรัฐ ดำเนินการรื้อถอนเต้นท์และสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการอยู่ชั่วคราวของคนไร้บ้าน
คำสั่งนี้ของนิวซัมเกิดขึ้น หนึ่งเดือนหลังจากที่ศาลสูงมีคำวินิจฉัยว่าเมืองต่าง ๆ ของสหรัฐฯ สามารถบังคับใช้กฎหมายห้ามการนอนในที่เปิดในเขตสาธารณะ
การเดินหน้าครั้งนี้ของผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียพุ่งเป้าไปที่เต้นท์และที่อยู่ชั่วคราวจำนวนหลายพันในการปะทังชีพของคนไร้บ้าน ซึ่งพบได้ตามท้องถนน ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า และสวนสาธารณะทั่วรัฐแห่งนี้
ศาลสูงระบุชัดเจนว่าอำนาจการตัดสินเรื่องการรื้นถอนเป็นของรัฐบาลระดับมลรัฐ
คดีที่ถูกนำขึ้นสู่ศาลสูงนี้เป็นกรณีที่มีผลผลสำคัญที่สุดต่อประเด็นคนไร้บ้านในสหรัฐฯ ในรอบหลายสิบปี ทั้งยังมีความละเอียดอ่อนทางการเมือง โดยจำนวนคนไร้บ้านมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเกิดความไม่พอใจของสังคมต่อปัญหาความปลอดภัยและสาธารณสุขที่ตามมา
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลของเเคลิฟอร์เนียภายใต้การนำของนิวซัม สนับสนุนจุดยืนที่ว่า จะต้องไม่มีการรื้อถอนเต้นท์ของคนไร้บ้าน จนกว่าบริการให้ที่นอนแก่คนเหล่านั้นจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น
แต่ในเเถลงการณ์ล่าสุด นิวซัมระบุว่า "ตอนนี้ไม่มีข้อแก้ตัวอะไรอีกเเล้ว ถึงเวลาเเล้วที่ทุกคนต้องทำหน้าที่ในส่วนของตน"
กลุ่มคนไร้บ้านและองค์การสนับสนุนพวกเขา กล่าวว่าการรือถอนเป็นวิธีที่โหดเหี้ยม และสิ้นเปลืองเงินภาษี พวกเขากล่าวว่าทางแก้ควรมาจากนโยบายที่อยู่อาศัยมากกว่าการปราบปราม
เเม้ว่านิวซัม จะไม่สามารถสั่งให้เกิดการปฏิบัติงานระดับท้องถิ่นได้ แต่ รัฐบาลของเขาสามารถกดดันด้วยการประวิงการเบิกจ่ายงบประมาณสู่เมืองและเขตปกครองท้องถิ่นได้
ทั้งนี้รัฐแคลิฟอร์เนีย มีจำนวนคนไร้บ้านคิดเป็นหนึ่งในสามของประชากรกลุ่มนี้ทั้งหมดในประเทศ
รัฐบาลของนิวซัมกล่าวว่าได้ใช้เงินไปราว 24,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อการทำให้ท้องถนนสะอาดขึ้น และจัดหาบ้านให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามเขาเคยยอมรับว่าปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องที่แก้ได้ยาก
การบริหารรัฐแคลิฟอร์เนียของเขาถูกวิจารณ์ไม่นานนี้ว่าไม่สามารถติดตามอย่างสมำ่เสมอว่างบประมาณที่ถูกใช้ไปอย่างมหาศาล ช่วยแก้ไขปรับปรุงสถานการณ์ได้หรือไม่
ข่าวเรื่องคำสั่งฝ่ายบริหารของนิวซัมยังมีการเมืองระดับชาติเเทรกอยู่ในบริบทด้วย
พรรครีพับลิกันยกระดับการตำหนิรัฐบาลเเคลิฟอร์เนียและวิกฤตคนไร้บ้าน ในเวลาที่รองประธานาธิบดีคามาลา เเฮร์ริส เริ่มหาเสียงเป็นผู้นำสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้เธอเคยทำหน้าที่เป็นอัยการของรัฐ จนรับตำแหน่งอัยการสูงสุดและยังเป็นสว. จากรัฐนี้ในสภาคองเกรสอีกด้วย
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์การเมืองรัฐแคลิฟอร์เนีย ไบรอัน โซเบล กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่าการออกคำสั่งครั้งนี้ของนิวซัม ไม่น่ามีผลมากนักต่อการหาเสียงของแฮร์ริส เพราะรัฐเเคลิฟอร์เนียมีฐานเสียงเดโมเเครตที่เข็งเเกร่งอยู่แล้ว
- ที่มา: เอพี