Your browser doesn’t support HTML5
(ฟังวีโอเอไทยคุยหนัง Alita)
ที่ผ่านมาฮอลลีวู้ดพยายามหยิบเรื่องมาเล่ากันมาทำภาพยนตร์กันเยอะและเจ็บมาเยอะ ก่อนหน้านี้คือ Ghost In the Shell ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักถึงความพยายาม Whitewash หรือพยายามครอบงำด้วยแนวคิดของคนผิวขาว
ล่าสุด อยากพูดถึงภาพยนตร์ที่ได้แรงบันดาลใจจากหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น หรือ มังงะ ล่าสุด คือ Alita ที่ได้แรงบันดาลใจจากมังงะ กันมุ ของ Yukito Kishiro ด้วยมือกำกับและเขียนบทจาก Robert Rodriguez และ James Cameron ซึ่งการันตีความอลังการดาวล้านดวง
Alita หรือ เพชรฆาตสาวไซบอร์ก ในชื่อไทย เล่าถึง ไซบอร์กสาวนาม Alita ที่ได้รับการชุบชีวิตจากศัลยแพทย์ไซบอร์ก Dr. Dyson Ido ที่เก็บมาจากกองขยะ พอฟื้นขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้ นอกจากทักษะการต่อสู้ ทำให้เธอต้องออกผจญภัยเพื่อค้นตาตัวตนที่หายไปของตัวเอง
ถือเป็นการเรียนรู้ของฮอลลีวู้ด ที่พยายามลดดีกรีการถ่ายทอดหนังจากมังงะ ด้วยการใช้ Alita ในรูปแบบของสาวละติน แทนที่จะเป็นคนขาว เหมือนกรณี Ghost In the Shell จนได้ Rosa Salazar จาก Maze Runner มารับบท Alita ซึ่งแบกตัวหนังทั้งเรื่อง แต่ด้วยความน่ารัก ดราม่า และมีเลือดนักสู้ ทำให้คนดูชื่นชอบตัวละครนี้ได้ไม่ยาก
ขณะที่ Dr. Dyson แสดงความเป็นพ่อคนได้อบอุ่น ส่วนตัวละครอื่นๆ บทค่อนข้างผิวเผินไม่โดดเด่นตราตรึงเท่าไหร่นัก ที่สำคัญบทยังขาดเคมีระหว่างตัวละคร ที่ไม่เข้มข้นพอจะทำให้คนอิน เห็นได้ชัดระหว่างพระ-นาง ที่ดูยังไงก็ไม่อิน
สำหรับบทที่ค่อยๆเล่าไปเรื่อยๆ ปูพื้นปะติดปะต่อเรื่องไปแบบไม่สนใจใคร และอาจทำให้รู้สึกเบื่อได้ในช่วงแรก แต่พอเข้าโหมดต่อสู้ก็ใส่กันไม่ยั้ง ฉากโลกเศษเหล็กทำได้อลังการ มืดมนและน่าหดหู่ดีไม่น้อย ฉากไล่ล่าและในสนามมอเตอร์บอลนั้นสวยและสนุกจนอยากให้เล่นกันนานๆ ฉากแอคชั่นทำได้สนุกแม้จะเป็นตัวละครผู้หญิง ซึ่งทำได้ดีมากและสนุกจนลืมสาระของภาพยนตร์ไปเหมือนกัน
โดยสรุปแล้ว Alita เป็นภาพยนตร์ไซไฟที่ให้ความบันเทิงล้วนๆ จากแอคชั่นมันส์ระห่ำ การดำเนินเรื่องและฉากที่จัดเต็มอย่างอลังการ โดยส่วนตัวเชื่อว่า Alita อาจจะตามหลัง Edge of Tomorrow ที่อิงตามมังงะ All you Need is Kill กลายเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จในฮอลลีวู้ดอีกเรื่องก็ได้