นับถอยหลังงานประกาศรางวัลออสการ์ 2019 ภาพยนตร์เข้าชิงรางวัลมากมายได้ผ่านสายตานักวิจารณ์และผู้ชมมากมาย รวมทั้งหนึ่งในภาพยนตร์พีเรียดสุดเพี้ยน ของผู้กำกับ Yorgos Lanthimos จากภาพยนตร์ The Lobster (2015)
มาคราวนี้รับโจทย์ใหญ่กับภาพยนตร์พีเรียดอิงประวัติศาสตร์ราชวงศ์อังกฤษ ใน The Favorite (2019) พร้อมรวมดารามากความสามารถไว้ในเรื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นโอลิเวีย โคลแมน, เอ็มมา สโตน, เรเชล ไวซ์, นิโคลัส ฮอลท์ และ โจ อัลวิน
The Favorite (2019) เล่าถึงความปั่นป่วนในวังหลวงในยุคควีนแอนน์ ผู้อ่อนแอ เอาแต่ใจ ไม่สนใจการบ้านการเมืองเท่าไหร่ แม้จะเป็นยุคสงครามลุกเป็นไฟ แต่ที่ผ่านพ้นมาได้ส่วนหนึ่งเพราะมีพระสหายคนสนิทอย่างเลดี้ซาราห์ (เรเชล ไวซ์) ที่ประวัติศาสตร์ว่ากันว่าทั้งสองมีความสนิทสนมกันอย่างลึกซึ้ง และบัลลังก์อังกฤษอยู่ในน้ำมือของเลดี้ซาราห์มาอย่างดี จนกระทั่งอาบิเกล (เอ็มมา สโตน) ญาติห่างๆของเลดี้ซาราห์ ขอเข้ามาทำงานในราชสำนักอังกฤษ แต่ด้วยความทะเยอทะยาน กระหายอำนาจ ทำให้เลดี้ซาราห์และอาบิเกล ต้องงัดทุกวิธีเพื่อให้ได้เป็นคนโปรด หรือ The Favorite ของควีนแอนน์ให้ได้
เรื่องนี้ได้รับเสียงวิจารณ์ในเชิงบวกในแง่ความสนุกและมีขั้นเชิงในการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ ที่หลายคนเห็นแล้วต้องเบือนหน้าหนีเพราะรู้ตอนจบอยู่แล้ว แต่สำหรับ The Favorite (2019) ในสายตาของ Lanthimos ทำให้หนังพีเรียดอันน่าเบื่อนี้เข้มข้น ฉีก เซอร์ไพรส์ และเพี้ยนตามสไตล์ของเขา
บวกกับพลังการแสดงของ 3 สาว ที่เข้าชิงออสการ์และลูกโลกทองคำกันหมดก็คือ โอลิเวีย โคลแมน, เอ็มมา สโตน, เรเชล ไวซ์ ที่โอลิเวียและเรเชล ค่อนข้างเข้าขากันดี มาในแนวร้ายลึกสไตล์อังกฤษ
ส่วนตัวชื่นชอบเอ็มมา สโตน ที่ดูจะเป็นอเมริกันจ๋าสุดในเรื่อง แม้จะพยายามใส่สำเนียงแดนผู้ดีมาก็ตาม แต่การพลิกบทร้ายแสบไส้ไม่เดียงสา พลิกบทบาทจากใน La La Land ที่เธอได้ออสการ์มาหมาดๆ ได้ใจผู้วิจารณ์ไปเต็มๆ
ส่วนพ่อหนุ่มนิโคลัส ฮอลท์ ที่เล่นหนังหาค่านมลูก และ โจ อัลวิน ที่งานรุ่งรักเริ่ดหลังจากเดทกับ กับเทย์เลอร์ สวิฟต์แบบเงียบๆ ก็โผล่มาเรียกคะแนนคนดูได้ดี และดูเหมือนโจ แค่โผล่ออกมาคนก็มองตามได้แล้ว แต่นิโคลัส ฮอลท์ เล่นใหญ่ในบทนักการเมืองที่ใช้มันทุกกลเม็ดเด็ดพรายจนน่าหมั่นไส้ แต่ได้ความพีเรียดแบบแนวๆดี
สิ่งที่ได้รับจากภาพยนตร์นั้น ก็สะท้อนความแก่งแย่งชิงดีในรั้ววังอังกฤษที่เก๋ไก๋ แสบสันต์ และทำให้อ้าปากค้างไปเหมือนกัน ขณะเดียวกันก็สะท้อนอีกด้านของมิตรภาพที่น่าสนใจ
ซึ่งในหน้าประวัติศาสตร์จะจริงหรือไม่...ใช่หรือมั่วอย่างไร ในเรื่องนี้ได้สะท้อนความจริงใจของบุคคลที่กำลังอยู่ในอำนาจ ให้ตระหนักถึงความสำคัญของ “มิตรแท้” เพราะบางครั้งเราอาจหลงลืมปลาบปลื้มกับคำยินยอสรรเสริญ คำปลอบใจที่เคลือบแฝง แต่เพื่อนแท้จะคอยบอกคอยเตือนสติ ถึงจะเป็นคำที่ไม่ฟังเท่าไหร่ก็ตาม