รายงานจากองค์กรยุติความเกลียดชังต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก หรือ STOP AAPI Hate เปิดเผยว่า ชาวเอเชียในอเมริกาตกเป็นเป้าการถูกคุกคามทำร้ายจากความเกลียดชัง มากกว่า 9,000 ครั้ง ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ตามรายงานของเอพี
รายงานฉบับล่าสุดของหน่วยงาน STOP AAPI Hate ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี รวบรวบคดีคุกคามคนเชื้อสายเอเชียในอเมริกา ซึ่งเกี่ยวข้องกับภาวการณ์ระบาดของโควิด-19 ในช่วงวันที่ 19 มีนาคมปีก่อน ถึงเดือนมิถุนายนปีนี้ พบว่า มีรายงานคดีลักษณะนี้ถึง 9,081 คดี
โดยรายงานที่ทาง Stop AAPI Hate รวบรวมมาได้ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีทั้งจากการเปิดเผยโดยเหยื่อและคนใกล้ตัวของผู้ประสบเหตุ พบว่า การคุกคามด้วยวาจา และการแสดงความรังเกียจ ซึ่งไม่ถือเป็นอาชญากรรมจากความเกลียดชังตามกฏหมาย คิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของเรื่องร้องเรียนหน่วยงานได้รับแจ้ง ขณะที่การทำร้ายร่างกายคนเอเชีย เพิ่มขึ้น 16.6% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับ 10.8% เมื่อปีก่อน
ในรายงานนี้ ยังพบว่า ผู้ที่แจ้งเหตุคุกคามชาวเอเชียราว 63% เป็นผู้หญิง ส่วนพิกัดการเกิดเหตุราว 31% เป็นการคุกคามชาวเอเชียที่เกิดขึ้นตามท้องถนน และ 30% เกิดขึ้นตามห้างร้านและธุรกิจของคนเชื้อสายเอเชีย
แม้ว่านักการเมือง นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ และชุมชนต่างๆ จะออกมาเรียกร้องความยุติธรรมและต่อต้านการคุกคามชาวเอเชียมากขึ้น รวมทั้งการผลักดันกฎหมายต่อต้านอาชญากรรมจากความเกลียดชังในปีนี้ แต่ในมุมมองของ Stop AAPI Hate มองว่าการคุกคามชาวเอเชียยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนัก
(ที่มา: เอพี)