พายุหิมะและการปิดโรงหนังหลายแห่งมิได้สร้างปัญหาให้กับภาพยนตร์วัยรุ่นเวอร์ชั่นใหม่ “Mean Girls” ซึ่งเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกด้วยรายได้ 28 ล้านดอลลาร์ในตลาดอเมริกาเหนือ
“Mean Girls” ฉบับดัดแปลงจากละครบรอดเวย์และจากภาคแรกซึ่งเป็นผลงานของ ทีน่า เฟย์ ทำเงินในช่วงสามวันแรกที่ออกฉายของสุดสัปดาห์วันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ได้มากกว่าภาคแรกที่ออกฉายเมื่อปี 2004 ที่ทำไป 24.4 ล้านดอลลาร์ โดยมีสัดส่วนผู้ชมที่เป็นผู้หญิงสูงถึง 76% และมี 70% ที่มีอายุระหว่าง 18 - 34 ปี
ทีน่า เฟย์ กลับมาทำหน้าที่เขียนบทและร่วมแสดงในเวอร์ชั่นใหม่นี้ด้วย โดยหนังได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่บวกและถูกพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ ซึ่งถือเป็นพลังสำคัญที่ผลักดันให้ “Mean Girls” เวอร์ชั่นนี้ครองบัลลังก์แซงหนังหลายเรื่องที่เปิดตัวในสัปดาห์เดียวกัน
ตามมาที่ 2 คือผลงานแอคชั่นของพระเอกนักบู๊ เจสัน สแตแธม กับ “The Beekeeper" ที่เก็บรายได้ไป 16.8 ล้านดอลลาร์ในสุดสัปดาห์เปิดตัว ซึ่งผู้ชมหลักของเรื่องนี้เป็นผู้ชายถึง 62%
ส่วนอันดับที่ 3 เป็นหนังที่ครองตำแหน่งมาแล้วหลายสัปดาห์ “Wonka” ที่ได้พระเอกหน้าเด็ก ทิโมธี ชาลาเมต์ รับบทเจ้าของโรงงานช็อคโกแลตมหัศจรรย์ เก็บเงินค่าขนมไปได้อีก 8.4 ล้านดอลลาร์ รายได้รวมในอเมริกาตอนนี้แตะ 178 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้ทั่วโลกไปถึง 500 ล้านดอลลาร์แล้ว
“Anyone But You” รอมคอมแนวเซ็กซี่ผลงานของ ซิดนีย์ สวีนนีย์ และเกลน พาวเวลล์ เข้ามาเป็นที่ 4 กับรายได้ 7 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ 4 ที่ออกฉาย ส่วน “Migration” แอนิเมชั่นเกี่ยวกับนกอพยพจากค่ายยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์ ตามมาเป็นที่ 5 กับรายได้ 6.2 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ล่าสุด
อันดับภาพยนตร์ทำเงินในอเมริกาเหนือ สุดสัปดาห์วันที่ 12-14 มกราคม 2024 จากการประเมินของ Comscore
1. “Mean Girls,” $28 million.
2. “The Beekeeper,” $16.8 million.
3. “Wonka,” $8.4 million.
4. “Anyone But You,” $6.9 million.
5. “Migration,” $6.2 million.
6. “Aquaman and the Lost Kingdom,” $5.3 million.
7. “Night Swim,” $4.7 million.
8. “The Boys in the Boat,” $3.5 million.
9. “The Book of Clarence,”$2.6 million.
10. “The Iron Claw,” $2.4 million.
- ที่มา: เอพี