สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คณะลูกขุนในรัฐมิสซูรี มีคำตัดสินให้บริษัท "จอห์นสััน & จอห์นสัน" (Johnson & Johnson) จ่ายเงินชดเชยมูลค่า $550 ล้านดอลลาร์ ให้กับสตรี 22 คน ผู้กล่าวหาว่าผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่นของ Johnson & Johnson รวมทั้งแป้งเด็ก มีส่วนประกอบของแร่ใยหิน ซึ่งเป็นสาเหตุให้พวกเธอเจ็บป่วยด้วย "โรคมะเร็งรังไข่"
คำตัดสินนี้ถือเป็นการชดใช้ค่าเสียหายมูลค่ามากที่สุดเท่าที่ Johnson & Johnson เผชิญมาจากข้อกล่าวหาเรื่องอันตรายจากแป้งฝุ่นของบริษัท โดยขณะนี้ยังมีคดีฟ้องร้องจ่อบริษัทแห่งนี้อีกราว 9,000 คดี
สตรี 22 คนที่เป็นโจทก์ กล่าวหาว่า พวกเธอได้รับผลกระทบต่อสุขภาพจากการใช้ "แป้งเด็กจอห์นสัน" มาเป็นเวลานานหลายสิบปี รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอื่นๆ ของบริษัทซึ่งมีส่วนผสมของแร่ใยหิน
พวกเธอกล่าวหาด้วยว่า ทางบริษัท Johnson & Johnson รับรู้ตั้งแต่หลายสิบปีก่อนว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทนั้นมีส่วนผสมที่เป็นอันตราย แต่ไม่เคยเตือนผู้บริโภคให้ทราบ
ทางบริษัท J&J มีแถลงการณ์แสดงความผิดหวังต่อคำตัดสิน และปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ โดยระบุว่าผลการศึกษาหลายชิ้นตลอดหลายสิบปี ชี้ให้เห็นว่าแป้งฝุ่นของบริษัทปลอดภัย ไม่มีส่วนผสมของใยหิน และมิได้ก่อให้เกิดมะเร็งแต่อย่างใด
ด้านทนายความของสตรีทั้ง 22 คน มีคำแถลงขอให้ Johnson & Johnson เรียกคืนผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่นทั้งหมดจากตลาด ก่อนที่จะสร้างอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตของประชาชนมากกว่านี้ หรือหากยังดื้อดึงจะขายสินค้านี้ต่อไป ก็ควรมีฉลากคำเตือนอย่างชัดเจน
องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA ได้ศึกษาตัวอย่างแป้งฝุ่นจากหลายบริษัทระหว่างปี ค.ศ. 2009 - 2010 รวมถึงแป้งเด็กของบริษัท Johnson & Johnson แต่ไม่พบว่ามีส่วนผสมของแร่ใยหินแต่อย่างใด
แต่ทนายความของโจทก์ในคดีนี้กล่าวว่า FDA ใช้การทดสอบที่มีข้อบกพร่อง ทำให้ไม่สามารถตรวจจับส่วนผสมที่อันตรายดังกล่าวได้