สองรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญด้านคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ พบประธานาธิบดีเม็กซิโกเพื่อหารือนโยบายด้านเขตแดนของสองประเทศ และประเด็นที่เกี่ยวข้อง ขณะที่กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิยืนยันจะไม่มีการใช้ทหารในปัญหาคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย
การพบกับครั้งนี้ที่กรุงเม็กซิโกซิตี้ เป็นการหารือระหว่างตัวแทนสหรัฐฯ นำโดย John Kelly แห่งกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และเจ้ากระทรวงการต่างประเทศ Rex Tillerson กับประธานาธิบดี Enrique Pena Nieto ของเม็กซิโก
รัฐมนตรี Tillerson กล่าวที่งานแถลงข่าวว่า ทั้งสองประเทศตระหนักถึงบรรยากาศที่ตึงเครียด และความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่ก็รับฟังจุดยืนของกันและกันอย่างใจเย็นด้วยความเคารพ
ความพยายามที่ทั้งสองประเทศจะร่วมหารือกันประกอบด้วยเรื่องการสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติดและอาวุธปืนข้ามพรมแดน และการรักษาแนวพรมแดนระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโก
ที่งานแถลงข่าวนี้ รัฐมนตรี Kelly กล่าวว่า สหรัฐฯ จะไม่ใช้กำลังทหารในการแก้ไขปัญหาคนเข้าสหรัฐฯ ผิดกฎหมาย และจะไม่มีการเนรเทศคนจำนวนมากในคราวเดียวหรือ mass deportation
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าจะมีปฏิบัติการของฝ่ายทหารสำหรับปัญหาคนเข้าประเทศผิดกฎหมาย
ประเด็นเรื่องคนเข้าเมืองเป็นวาระการทำงานสำคัญอันดับต้นๆ ของรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ และได้ถูกสะท้อนในผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนล่าสุดโดยสำนักข่าว CBS News ด้วย
โพลล์ชี้ว่า ประชาชนอเมริกันเห็นว่าเรื่องคนเข้าเมืองเป็นหัวข้อสำคัญที่สุดที่ต้องการให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนักการเมืองในสภาเข้าแก้ไข ตามมาด้วยประเด็นทางเศรษฐกิจและนโยบายประกันสุขภาพ
ขณะเดียวกัน แม้จะเกิดความกังวลเรื่องคนเข้าเมืองและความปลอดภัยภายในประเทศ แต่ประชาชนชาวอเมริกันมากถึงร้อยละ 60 ต้องการให้ผู้ที่เข้าเมืองผิดกฎหมายและอยู่ในสหรัฐฯ ขณะนี้ มีโอกาสได้เป็นประชาชนของประเทศในที่สุด ตามการสำรวจของ CBS News
(รายงานโดย สำนักข่าวต่างประเทศและห้องข่าววีโอเอ / เรียบเรียงโดย รัตพล อ่อนสนิท)