กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ออกจดหมายเวียนภายในสองฉบับ ที่ให้รายละเอียดการดำเนินการตามคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรื่องการปราบปรามการเข้าเมืองผิดกฎหมาย และการเนรเทศคนต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารรองรับการอยู่ในอเมริกา
หนังสือเวียนสองฉบับมีเนื้อหาการประกาศเพิ่มประเภทของคนต่างด้าวที่อยู่ในข่ายซึ่งเจ้าหน้าที่จะใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อนำตัวออกนอกสหรัฐฯ
นอกจากนี้ เอกสารดังกล่าวยังสรุปแผนการว่าจ้างเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายเพิ่มหลายพันตำแหน่ง และระบุหน้าที่ของฝ่ายท้องถิ่นในการใช้กฎหมายคนเข้าเมือง โดยมีผลทันทีนับจากการประกาศ
จดหมายเวียนสองฉบับ ซึ่งถูกนำออกมาให้สื่อเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว กำหนดข้อยกเว้นในสำหรับการนำตัวคนต่างด้านออกนอกสหรัฐฯ ด้วย
กลุ่มที่ได้รับการยกเว้น คือผู้ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายที่เรียกว่า DACA (Deferred Action for Childhood Arrivals) ของอดีตประธานาธิบดีโอบามา ที่ปกป้องการพรากผู้ปกครองจากเด็กที่เข้าประเทศสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย เมื่อตอนยังเป็นผู้เยาว์
คาดว่ามีบุคคลที่เข้าข่ายดังกล่าว หรือที่เรียกว่า ‘Dreamers’ อยู่ราวๆ 750,000 คนทั่วสหรัฐฯ โดยพวกเขาจะได้รับการคุ้มครองให้อยู่และทำงานในสหรัฐฯ ได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกเนรเทศ
ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วระหว่างการแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า เขาจะดำเนินการกับกลุ่มผู้ที่อยู่ภายใต้กฎหมาย DACA ด้วยหัวใจ หรือความรู้สึกเห็นใจ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะตัดสินใจในเรื่องนี้
นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เด็กๆ ในกลุ่ม DACA จำนวนมากที่เป็นบุคคลน่าเหลือเชื่อ แต่หลายคนก็เข้าไปอยู่ในแก๊งค์อาชญากรรมเช่นกัน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ยากมากในการตัดสินใจเรื่องนี้
ขณะเดียวกัน นาย John Kelly รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ มีนโยบายเรื่องการตรวจตราเขตแดนที่มุ่งเน้นไปที่ชายแดนสหรัฐฯ และเม็กซิโก และต้องการใช้เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการป้องปรามและยับยั้งการเดินทางเข้าสหรัฐฯ ผิดกฎหมาย
ด้านนักรณรงค์เพื่อสิทธิ์คนต่างด้าวกล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์มีจุดประสงค์ที่โหดร้ายต่อครอบครัวคนต่างด้าวในสหรัฐฯ นับล้านครัวเรือน
Joanne Lin ทนายความของหน่วยงาน American Civil Liberties Union กล่าวว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน คนเข้าเมืองผิดกฎหมายเกือบทุกคนเป็นเป้าของการถูกควบคุมตัวและถูกส่งกลับประเทศ โดยที่ทางการจะเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ตามชายแดน และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองครั้งใหญ่
เธอกล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานท้องถิ่นตามรัฐและชุมชนต่างๆ ได้รับการสนับสนุนให้มาเสริมกำลังด้านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งคนเหล่านี้รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ที่มีประวัติการใช้กำลังรุนแรง และการตั้งข้อสันนิษฐานตามลักษณะชาติพันธุ์ของผู้ต้องสงสัย