ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทส่งข้อความทางอินเทอร์เน็ต เทเลแกรม (Telegram) ถูกจับกุมที่สนามบินในกรุงปารีส ตามหมายจับที่กล่าวหาว่าระบบส่งข้อความของเขาถูกใช้ในการฟอกเงิน ค้ายาเสพติด และการกระทำผิดอื่น ๆ ตามรายงานของสื่อฝรั่งเศสในวันอาทิตย์
พาเวล ดูรอฟ วัย 39 ปีซึ่งถือสองสัญชาติ คือ ฝรั่งเศส และรัสเซีย ถูกเจ้าหน้าที่ของสำนักงานต่อต้านการทุจริตแห่งชาติของฝรั่งเศส จับกุมที่สนามบินปารีส เลอ-บูร์เกต์ (Paris-Le Bourget) เมื่อเย็นวันเสาร์ หลังจากที่เขาเดินทางมาจากอาเซอร์ไบจาน ตามรายงานของสื่อ LCI และ TF1
อัยการฝรั่งเศสยังคงปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้เมื่อทางสำนักข่าวเอพีติดต่อไปในวันอาทิตย์
สื่อฝรั่งเศสรายงานว่า รัฐบาลกรุงปารีสเป็นผู้ออกหมายจับดูรอฟตามคำขอของกระทรวงกิจการภายในประเทศผู้ดูแลการสอบสวนอาชญากรรมต่อเด็กและเยาวชน ซึ่งรวมถึงข้อกล่าวหาว่ามีการแสวงหาประโยชน์ทางเพศและเผยแพร่เนื้อหาการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เยาว์ในสื่อดังกล่าว
ทั้งนี้ ดูรอฟก่อตั้งสื่อเทเลแกรมในช่วงที่รัฐบาลรัสเซียปราบปรามผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อปลายปี 2021 ถึงปี 2022 ซึ่งนำไปสู่การกวาดล้างพื้นที่สื่อดิจิทัลต่าง ๆ จำนวนมาก รวมทั้งการปิดเว็บไซต์และเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือและการส่งข้อความผ่านบริษัทผู้ให้บริการต่าง ๆ
ในช่วงแรก เทเลแกรมเกิดขึ้นเพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารของชาวรัสเซียที่ต้องการเลี่ยงการถูกตรวจสอบโดยรัฐบาลก่อนที่จะกลายเป็นแพลตฟอร์มแชร์ข่าวสารที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายทั้งในรัสเซียและยูเครนในช่วงที่เกิดสงครามระหว่างสองประเทศ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชาติตะวันตกกล่าวหาว่า เทเลแกรมขาดการตรวจสอบเนื้อหา ทำให้กลายเป็นเครื่องมือของอาชญากรที่ต้องการฟอกเงิน ค้ายาเสพติด รวมทั้งการแชร์เนื้อหาลามกอนาจารต่อเด็กและเยาวชน
ด้านสื่อเทเลแกรมมีแถลงการณ์เกี่ยวกับการจับกุมดูรอฟว่า ทางบริษัทปฏิบัติตามกฎหมายของสหภาพยุโรปอย่างเคร่งครัด และมีการตรวจสอบเนื้อหาตามมาตรฐานของอุตสาหกรรมและยังพัฒนาปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา พร้อมยืนยันว่า ดูรอฟมิได้กระทำผิดและไม่มีอะไรที่ต้องปกปิด
"ผู้ใช้เกือบหนึ่งพันคนทั่วโลกใช้เทเลแกรมเป็นช่องทางการสื่อสาร และเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญ เรากำลังรอคอยทางออกที่ชัดเจนสำหรับสถานการณ์นี้ เทเลแกรมยังอยู่กับทุกคน" แถลงการณ์ของเทเลแกรมระบุ
ด้านรัฐบาลรัสเซียออกมาแสดงความไม่พอใจต่อการจับกุมดูรอฟ พร้อมตำหนิชาติตะวันตกว่าใช้สองมาตรฐานในด้านเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น
- ที่มา: เอพี