ลิ้งค์เชื่อมต่อ

‘อลาสกา’ ดึงระบบคลาวด์ช่วยคาดการณ์เหตุภูเขาไฟระเบิด


นักวิทยาศาสตร์จากโครงการ Alaska Volcano Observatory ติดตั้งอุปกรณ์สังเกตการณ์ภูเขาไฟ Mount Edgecumbe ในรัฐอลาสกา
นักวิทยาศาสตร์จากโครงการ Alaska Volcano Observatory ติดตั้งอุปกรณ์สังเกตการณ์ภูเขาไฟ Mount Edgecumbe ในรัฐอลาสกา

เมื่อภูเขาไฟที่นิ่งสงบมานานในรัฐในอลาสกาเริ่มส่งสัญญาณว่า อาจมีการปะทุขึ้นมาอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว เหล่านักวิทยาศาสตร์จึงหันมาหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลมากมายมหาศาลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านธรณีวิทยาในพื้นที่รัฐตะวันตกเฉียงเหนือนี้อย่างรวดเร็ว

รอนนี เกรพเพนทิน รองศาสตราจารย์ จาก Fairbanks Geophysical Institute แห่ง University of Alaska
รอนนี เกรพเพนทิน รองศาสตราจารย์ จาก Fairbanks Geophysical Institute แห่ง University of Alaska

รอนนี เกรพเพนทิน รองศาสตราจารย์ จากสถาบันธรณีฟิสิกส์ แฟร์แบงค์ส (Fairbanks Geophysical Institute) แห่งมหาวิทยาลัยแห่งอลาสกา (University of Alaska) ให้สัมภาษณ์ว่า “ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ภายในสองสามวัน เราสามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บมาจากระยะเวลาเกือบแปดปีได้สำเร็จ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน อาจต้องใช้เวลานานหลายสัปดาห์หรืออาจจะนานหลายเดือน”

การสังเกตการณ์ภูเขาไฟส่วนใหญ่นั้นใช้ข้อมูลจากดาวเทียมเพื่อตรวจวัดว่ามีการเคลื่อนไหวของพื้นดินรอบ ๆ ตัวภูเขาไฟอย่างไรบ้าง ก่อนจะมีการโอนถ่ายข้อมูลดังกล่าวไปยังเซิร์ฟเวอร์ในพื้นที่และดาวน์โหลดมาเพื่อทำการวิเคราะห์

แต่เพราะไฟล์ข้อมูลเหล่านั้นมักมีขนาดใหญ่มาก จึงอาจต้องใช้ระยะเวลานาน ทั้งสำหรับการดาวน์โหลดและการจำแนกวิเคราะห์

แต่ด้วยระบบใหม่นั้น ผู้สังเกตการณ์ภูเขาไฟสามารถจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลบนระบบคลาวด์ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและทำให้การอัปเดตข้อมูลที่เกี่ยวกับภูเขาไฟทำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น เพราะมีการใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยขึ้นและนำไปสู่การพัฒนาการทำนายการปะทุของภูเขาไฟได้ดียิ่งขึ้น

นักวิทยาศาสตร์เก็บข้อมูลเกี่ยวกับภูเขาไฟ
นักวิทยาศาสตร์เก็บข้อมูลเกี่ยวกับภูเขาไฟ

แม็กซ์ เอนเดอร์ส นักธรณีฟิสิกส์ จากสำนักสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (US Geological Survey - USGS) มองว่า การใช้ระบบคลาวด์มีความสำคัญอย่างมากเพื่อสังเกตการณ์ภูเขาไฟในอลาสก้า

แม็กซ์ เอนเดอร์ส นักธรณีฟิสิกส์ จาก US Geological Survey (USGS)
แม็กซ์ เอนเดอร์ส นักธรณีฟิสิกส์ จาก US Geological Survey (USGS)

เอนเดอร์ส อธิบายว่า อลาสกา คือ พื้นที่ที่อยู่ในแนวหน้าด้านเทคโนโลยีอยู่เสมอ เพราะมีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่เป็นจำนวนมากและปะทุอยู่บ่อยครั้งจนต้องมีการเฝ้าสังเกตการณ์ตลอดเวลา และด้วยเหตุผลนี้ ผู้คนจากทั่วโลกก็สามารถมาที่อลาสกาเพื่อศึกษาเกี่ยวกับภูเขาไฟได้ไม่ยาก

ไมเคิล โปแลนด์ นักธรณีฟิสิกส์ จาก USGS เช่นกัน กล่าวเสริมว่า การใช้ระบบประมวลผลข้อมูลภูเขาไฟแบบอัตโนมัติที่ดึงมาจากคลาวด์นั้นทำให้ทุกคนปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วย

ไมเคิล โปแลนด์ นักธรณีฟิสิกส์ จาก US Geological Survey
ไมเคิล โปแลนด์ นักธรณีฟิสิกส์ จาก US Geological Survey

โปแลนด์ ชี้ว่า ระบบคลาวด์คือสิ่งที่จะช่วยนำทางไปสู่วิสัยทัศน์ของแนวทางการสังเกตการณ์เสมือนจริงทั่วทั้งโลกจากนานาชาติที่สามารถให้ข้อมูลและวิเคราะห์ผลลัพธ์ในแบบอัตโนมัติและเรียลไทม์ได้ “ซึ่งจะช่วยทำให้การแข่งขันในด้านนี้มีความเท่าเทียมกันได้จริง”

ภูเขาไฟ Mount Edgecumbe ในรัฐอลาสกา
ภูเขาไฟ Mount Edgecumbe ในรัฐอลาสกา

ทั้งนี้ การใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าวช่วยให้ Alaska Volcano Observatory ซึ่งเป็นโครงการร่วมระหว่าง USGS และสถาบันธรณีฟิสิกส์ แฟร์แบงค์ส แห่งมหาวิทยาลัยแห่งอลาสกา สามารถสรุปข้อมูลความผิดปกติที่เกิดขึ้นบริเวณภูเขาไฟ เมาท์ เอดจ์คัมบ์ (Mount Edgecumbe) ได้ว่า ไม่มีความเสี่ยงแบบฉับพลันใด ๆ แต่ผู้เกี่ยวข้องได้ติดตั้งเครื่องมือวัดแผ่นดินไหวชุดใหม่ที่ภูเขาไฟลูกนี้เพื่อให้เฝ้าสังเกตการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว

  • ที่มา: วีโอเอ

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG