สมาพันธ์ฟุตบอลโลก หรือ ฟีฟ่า ประกาศถอดอินโดนีเซียออกจากการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก รุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือ ยู-20 ประจำปี ค.ศ. 2023 สร้างความตกตะลึงให้แก่วงการฟุตบอลทั่วโลก ในขณะที่การแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ถึงสองเดือนเท่านั้น
ฟีฟ่ายังไม่ได้ให้เหตุผลของการตัดสินใจครั้งนี้ โดยระบุทางเว็บไซต์ว่า "เนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงขอถอดอินโดนีเซียออกจากการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ยู-20 ปี 2023"
การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากหารือระหว่างประธานฟีฟ่า จิอานนี อินฟานติโน และประธานสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย (PSSI) เอริค โทเฮียร์ ซึ่งหนึ่งในหัวข้อของการหารือครั้งนี้คือเรื่องที่เจ้าหน้าที่อินโดฯ บางคนไม่ต้องการให้อิสราเอลเข้าร่วมในการแข่งขันครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ของฟีฟ่ายังพาดพิงถึง "โศกนาฏกรรมเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2022" สืบเนื่องจากเหตุจลาจลในสนามฟุตบอลที่เมืองกานจูรูฮาน จังหวัดชวาตะวันออก ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 125 คน
ฟีฟ่าระบุด้วยว่า จะมีการประกาศชื่อเจ้าภาพประเทศใหม่เร็ว ๆ นี้ ในขณะที่วันแข่งขัน คือ 20 พฤษภาคม ถึง 11 มิถุนายน ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ คาดว่าอาจมีการประกาศบทลงโทษต่อสมาคมฟุตบอลอินโดฯ ตามมาด้วย
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ผู้ว่าการจังหวัดบาหลีและจังหวัดชวากลางออกมาคัดค้านการเข้าร่วมแข่งขันของทีมชาติอิสราเอลในอินโดนีเซีย เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ที่สร้างความไม่พอใจให้กับโลกมุสลิม
มีประชาชนบางส่วนเดินขบวนในกรุงจาการ์ตาในเดือนนี้เพื่อต่อต้านการเข้าร่วมของอิสราเอล พร้อมโบกธงชาติอินโดนีเซียและปาเลสไตน์เพื่อแสดงจุดยืนของพวกตน
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโก วีโดโด ได้ขอให้ผู้ที่ประท้วงทีมชาติอิสราเอลอย่านำกีฬามาผสมกับการเมือง พร้อมยืนยันว่า ไม่ว่าอิสราเอลจะเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้หรือไม่ก็มิได้เปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศของอินโดนีเซียที่มีต่อปาเลสไตน์แต่อย่างใด
- เนื้อหาบางส่วนจากรอยเตอร์