โฆษกสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ประตูบางแห่งของสนามกีฬาที่เกิดเหตุจลาจลเมื่อวันเสาร์ ถูกล็อกไว้หลังจากจบการแข่งขันซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์เหยียบกันจนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 131 คน
เออร์วิน โทบิง หัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบวินัยของสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ประตูบางด้านของสนามกีฬากันจูรูฮาน ในอำเภอมาลัง จังหวัดชวาตะวันออก ควรถูกเปิดออกก่อนการแข่งขันจบลง 10 นาที แต่ประตูดังกล่าวกลับถูกปิดเอาไว้จนถึงช่วงเกิดเหตุการณ์วุ่นวายเพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงประตูเหล่านั้นได้
ตำรวจระบุว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นประตูบางด้านถูกแง้มออกเล็กน้อย แต่ไม่เพียงพอให้แฟนฟุตบอลหลายร้อยคนที่กรูกันออกไปหลังจากที่มีการยิงแก๊สน้ำตาในสนามฟุตบอล
เหตุเหยียบกันตายเมื่อวันเสาร์ เกิดขึ้นหลังจากที่ทีมเจ้าบ้าน อเรมา เอฟซี (Arema FC) พ่ายแพ้ต่อทีมคู่อริ เปอร์เซบายา เอฟซี (Persebaya FC) 3-2 ทำให้แฟนฟุตบอลของทีมเจ้าบ้านต่างไม่พอใจและขว้างปาขวดและสิ่งของต่าง ๆ ใส่นักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ในสนาม หลายคนวิ่งลงไปในสนามฟุตบอลจนเกิดจลาจลครั้งใหญ่
พยานหลายคนให้การว่า เจ้าหน้าที่ใช้กระบองทุบตีแฟนฟุตบอลก่อนที่จะยิงแก๊สน้ำตาใส่ฝูงชน รวมทั้งบนอัฒจันทร์ ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในหมู่แฟนบอลที่พยายามแย่งกันหาทางออกจากสนามกีฬา จนเกิดเหตุเหยียบย่ำกันจนเสียชีวิต
หัวหน้าตำรวจอำเภอมาลังถูกสั่งย้ายหลังเหตุการณ์นี้ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงอีก 9 คนถูกสั่งพักงาน และกำลังมีการสอบสวนตำรวจอีกอย่างน้อย 18 คน ขณะที่บรรดาผู้บริหารของทีมฟุตบอล อเรมา เอฟซี และเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยต่างถูกสั่งห้ามเกี่ยวข้องกับฟุตบอลตลอดชีวิต
ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโก วีโดโด เดินทางเยี่ยมสนามฟุตบอลที่เกิดเหตุในวันพุธ และเยี่ยมผู้บาดเจ็บหลายคนในโรงพยาบาลโดยก่อนหน้านี้ได้มีคำสั่งระงับการแข่งขันฟุตบอลทั่วประเทศ และให้มีการตรวจสอบสนามฟุตบอลต่าง ๆ อย่างเข้มงวด
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์
