ประธานระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเลล์ กล่าวในวันอังคารว่า ความเป็นอิสระของธนาคารกลางได้ถูกพิสูจน์อย่างเเพร่หลายและผ่านบททดสอบทางการเมืองเเล้วว่าเป็นวิธีที่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อเศรษฐกิจของประเทศ
"ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นชัดเเจ้งว่า" ธนาคารแห่งชาติที่ทำงานโดยอยู่นอกปัจจัยและคำสั่งทางการเมือง "เป็นการวางตัวที่ดีของสถาบันซึ่งรับใช้ประชาชนได้ดี" พาวเวลล์กล่าว
"ตราบเท่าที่ทำประโยชน์ให้กับสาธารณชนได้ดี มันก็คือทางเลือกที่ดี" เขากล่าวเสริม ขณะขึ้นให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการของวุฒิสภาสหรัฐฯ ด้านการธนาคาร ที่อยู่อาศัยและกิจการเขตเมือง
เขายังชี้ให้เห็นว่า ความเป็นอิสระของแบงก์ชาติในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หลายประเทศ ทำให้สถาบันเหล่านั้นได้รับเสรีภาพในการตัดสินใจเองเพื่อทำตามฉันทามติให้สำเร็จ โดยไม่ถูกสั่งการโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมือง
และหนึ่งในแง่มุมที่ช่วยให้ธนาคารกลางมีอิสระในการทำงานคือการได้รับพื้นที่ให้สามารถตัดสินใจในเรื่องที่ยาก เมื่อต้องบริหารจัดการเงินเฟ้อ
ประเด็นนี้เกี่ยวโยงถึงการตัดสินใจต่อทางเลือกระยะสั้นสำหรับประธานระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ 'เฟด' โดยในปัจจุบันเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้น อยู่ ณ จุดสูงสุดในช่วงหลายสิบปี
หลายฝ่ายจึงพยายามหาเหตุผลเพื่อให้เกิดการลดดอกเบี้ย ท่ามกลางเเรงกดดันที่น้อยลงจากเงินเฟ้อ
การตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยโดยเฟดอาจเกิดขึ้นใกล้วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน
และเมื่อมองย้อนกลับไป เมื่อครั้งที่โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาวิจารณ์เฟดหลายครั้ง ซึ่งเป็นการวางตัวที่เเตกต่างจากผู้นำที่ผ่านมาหลายทศวรรษที่เลี่ยงการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงานของธนาคารกลาง
ประเด็นเรื่องอิสระของเฟด ยังเกิดขึ้นในขณะที่มีการพูดถึงแผน Project 2025 ที่จัดทำโดยมูลนิธิ Heritage Foundation ซึ่งเป็นความพยายามของคนที่เคยทำงานในรัฐบาลทรัมป์
ภายใต้แนวคิดของ Project 2025 ทิศทางเรื่องเฟดถูกสะท้อนในเนื้อหาที่ระบุว่า "ความคิดเห็นของประชาชนที่ถูกสะท้อนผ่านกระบวนการออกกฎหมายในรัฐธรรมนูญ ควรจะเป็นตัวชี้วัดสุดท้ายต่อระเบียบทางการเงินของสถาบันในสังคมที่เสรี"
โดยทั่วไปแล้ว นักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญเห็นด้วยว่าแรงกดดันทางการเมืองนำไปสู่ผลลัพธ์ต่อเศรษฐกิจที่เลวร้ายกว่า โดยเฉพาะในเรื่องเงินเฟ้อตามรายงานของรอยเตอร์
- ที่มา: รอยเตอร์