รายงานที่รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ ชี้ว่า จีนยังคงเดินหน้าพยายาม “กัดกร่อนบรรทัดฐานอันมีมานานในและรอบ ๆ ไต้หวัน” ด้วยกลยุทธ์สร้างความกดดันมากมายซึ่งรวมถึงการส่งเครื่องบินรบขึ้นบินข้ามเส้นแบ่งแขตแดนช่องแคบใต้หวันด้วย
ในรายงาน Military and Security Developments Involving the People's Republic of China ประจำปี 2024 ที่เพิ่งมีการเผยแพร่ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วตามคำสั่งของสภาคองเกรส เพนตากอนเน้นย้ำประเด็นความพยายามของจีนในการสร้างฐานกำลังทางทหารอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเองและตอกย้ำคำกล่าวอ้างอธิปไตยเหนือดินแดนต่าง ๆ
รายงานนี้ยังชี้ด้วยว่า กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) เดินหน้า “แผนงานการเตรียมพร้อมทางทหารในช่องแคบไต้หวันพร้อม ๆ กับประวิงเวลาหรือไม่ก็ปฏิเสธการแทรกแซงของบุคคลที่ 3” มากขึ้นเรื่อย ๆ
ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้แต่แสดงความกังวลหนักขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารแย้งว่า การตอบโต้จีนของกรุงวอชิงตันนั้นไม่มีประสิทธิภาพมากพอในการสกัดกั้นการรุกรานของกรุงปักกิ่ง
อดีตเจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ บางรายยังเสนอให้กรุงวอชิงตันใช้ข้อตกลง U.S.-Taiwan Acquisition and Cross-Servicing Agreement (ACSA) ในการเปิดทางให้เครื่องบินรบของสหรัฐฯ ทำการเติมเชื้อเพลิงในบริเวณช่องแคบไต้หวัน เพื่อแสดงเจตจำนงของสหรัฐฯ ในเรื่องนี้ให้ชัดเจน
ข้อตกลง ACSA ที่เป็นสัญญาด้านโลจิสติกส์ระหว่างสหรัฐฯ และไต้หวันนั้น ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันมากนัก มีเนื้อหาเปิดทางให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แลกเปลี่ยงเสบียงคลัง บริการและการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์กับหุ้นส่วนและพันธมิตรทั้งหลายได้
เจ้าหน้าที่ในกรุงวอชิงตันกล่าวว่า การทำงานด้านการทหารระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวันนั้นถูกปรับเปลี่ยนให้มาช่วยตอบโต้จีนและท่าทีที่ดุดันขึ้นของกรุงปักกิ่งในการใช้กำลังทางทหารเพื่อขู่เข็ญไต้หวันแล้ว
แต่เจ้าหน้าที่จีนก็ออกมาเตือนสิ่งที่ระบุว่าเป็น “การแทรกแซงทางทหารจากต่างชาติ” และกล่าวย้ำว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของ “กิจการภายใน” ของจีน
นอกจากนั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนรายหนึ่งยังกล่าวด้วยว่า “จีนเรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดทำการติดอาวุธให้ไต้หวันในทันที” ซึ่งเป็นคำกล่าวเพื่อตอบโต้การที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อนุมัติความช่วยเหลือด้านกลาโหมมูลค่า 571 ล้านดอลลาร์ให้ไต้หวันไปเมื่อเร็ว ๆ นี้
โฆษกคนดังกล่าวด้วยว่า คำประกาศส่งความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ นั้นเป็นเหมือนการ “เล่นกันไฟ” และสุดท้ายก็จะถูก “เผาไหม้” เอง
Your browser doesn’t support HTML5
อย่างไรก็ดี เทรย์ มีคส์ นักวิชาการอาวุโสด้านกลาโหมจาก Center for a New American Security ในกรุงวอชิงตัน บอกกับ วีโอเอ ว่า ยุทธศาสตร์ที่ใช้ต้นทุนต่ำที่จะช่วยกระตุ้นขวัญกำลังใจไต้หวันและแสดงให้เห็นถึงเจตจำนงของสหรัฐฯ น่าจะช่วยต้าน “ความปกติแบบใหม่” ของจีนในเรื่องการข่มขวัญด้วยกำลังทหารที่เพิ่มมากขึ้นได้
สิ่งที่มีคส์หมายความถึงก็คือ สมมติว่า หากเกิดเหตุการณ์เครื่องบินกองทัพจีนบินข้ามเส้นแบ่งเขตแดนขึ้นมา สหรัฐฯ ก็สามารถส่งเครื่องบินรบ 2 ลำขึ้นบินด้วยการอ้างข้อตกลง ACSA และทำการเติมเชื้อเพลิงที่ไต้หวันได้ เป็นต้น
ทั้งนี้ มีคส์มีความเห็นคล้ายกับผู้เชี่ยวชาญทางทหารหลายคนว่า รัฐบาลชุดของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ น่าจะมีท่าทีเชิงรุกเข้าใส่จีนมากกว่าที่เป็นอยู่ ถ้าหากไต้หวันยอมตกลงเพิ่มงบประมาณกลาโหมอย่างมีนัยสำคัญ
- ที่มา: วีโอเอ