ยูเอ็นชี้ 'พันธุ์พืชเเละสัตว์' ราว 1 ใน 4 กำลังลดลงอย่างรวดเร็วทั่วโลก

A rhino is seen in a cage in the Addo Elephant Park, near Port Elizabeth, South Africa, to be transported to Zakouma National Park in Chad, May 2, 2018.

Your browser doesn’t support HTML5

นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่าความหลากหลายทางชีววิทยาทุกด้านกำลังลดลงทั่วโลก

บรรดานักวิทยาศาสตร์ที่ได้ประชุมกันในประเทศโคลัมเบียเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ร่วมกันเปิดเผยรายงานหลายชิ้นเกี่ยวกับสภาพของความหลากหลายทางนิเวศวิทยาใน 4 ภูมิภาคทั่วโลกได้แก่ ทวีปอเมริกาเหนือและใต้ ยุโรปกับเอเชียกลาง แอฟริกา และเอเชียแปซิฟิก โดยชี้ว่าในพื้นที่ทั้งหมดนี้ จำนวนพืชเเละสัตว์กำลังลดลงในอัตราที่รวดเร็ว

มีนักวิทยาศาสตร์เกือบ 600 คน ที่มีส่วนร่วมในการรวบรวมข้อมูลสำหรับรายงานเหล่านี้ โดยใช้เวลานานกว่า 3 ปี

คณะกรรมการความร่วมมือระหว่างประเทศด้านวิทยาศาสตร์และนโยบายด้านความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศวิทยา (Intergovernmental Science-Policy Platform on Biodiversity and Ecosystem Services) หรือ IPBES ได้เตือนว่า การลดลงอย่างน่ากังวลของจำนวนพืชเเละสัตว์ในระดับทั่วโลกนี้ จะสร้างผลเสียต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค ชีวิตเเละความเป็นอยู่ของคน ความมั่นคงทางอาหาร เเละคุณภาพชีวิตของคนทุกหนทุกแห่งทั่วโลก

โรเบิร์ต วัตสัน (Robert Watson) ประธาน IPBES กล่าวว่า การสูญเสียความหลากหลายทางนิเวศวิทยามีผลกระทบโดยตรงต่อคนที่พึ่งพาความหลากหลายทางนิเวศวิทยาที่เป็นแหล่งอาหาร แหล่งน้ำสะอาดและสุขภาพ

วัตสัน กล่าวว่า รายงานนี้ชี้ว่าคนเรากำลังทำลายคุณภาพชีวิตในอนาคตของเราเอง การสูญเสียสัตว์และพืชไปเป็นผลมาจากโลกมีความร่ำรวยมากขึ้น เเละมีความแออัดยัดเยียดมากขึ้น เพราะมีจำนวนคนมากขึ้น ซึ่งต้องการอาหาร น้ำดื่มสะอาด พลังงานเเละที่ดินเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

รายงานเกี่ยวกับการลดลงของสัตว์และพืชทั่วโลกนี้คาดการณ์ว่า ภายในปี ค.ศ. 2050 หรือ อีก 32 ปีข้างหน้า ทั้งทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้จะมีจำนวนพืชและสัตว์น้อยลง 40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงต้นคริสต์ทศวรรษที่ 1700

ผลการศึกษาชี้ว่า เกือบหนึ่งในสี่ของพันธุ์พืชเเละสัตว์ที่เคยมีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ มาถึงตอนนี้ กำลังถูกคุกคามและลดจำนวนลงจนน่าเป็นห่วง

ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ปะการังราวเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์จะตกอยู่ในสภาพเสียหายอย่างรุนแรงภายในอีก 32 ปีข้างหน้าเเละแหล่งทรัพยากรปลาธรรมชาติเพื่อการประมงเพื่อการค้าก็คาดว่าจะหมดลงภายในปี ค.ศ. 2048 หรือในอีก 30 ปี

ในแอฟริกา คาดว่ามากกว่ากึ่งหนึ่งของนกเเละสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดต่างๆ ในทวีปนี้ จะสูญไปภายในปี ค.ศ. 2100 หรือภายใน 82 ปี หากยังไม่มีมาตรการเด็ดขาดออกมาจัดการ

รายงานการลดลงของความหลากหลายทางนิเวศวิทยาชิ้นนี้พบว่า ยุโรปและเอเชียกลางเป็นภูมิภาคที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางนิเวศวิทยาเอาไว้

อย่างไรก็ตาม ทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการศึกษาเรื่องนี้ชี้ว่า 28 เปอร์เซ็นต์ของพันธุ์พืชและสัตว์ที่มีอยู่เฉพาะในยุโรปกำลังถูกคุกคามเเละลดจำนวนลง

ผลการศึกษานี้ออกมาในช่วงเดียวกับที่สัตว์อีกสายพันธุ์หนึ่งกำลังใกล้ที่จะสูญพันธุ์ หลังจากที่แรดพันธุ์นอร์ทเธิร์น ไวท์ (northern white) ตัวผู้ตัวสุดท้ายในแอฟริกาได้ตายลง

รายงานนี้เเนะนำว่า รัฐบาลในประเทศต่างๆ เเละภาคเอกชนพิจารณาผลกระทบต่อความหลากหลายทางนิเวศวิทยาเมื่อต้องตัดสินใจเกี่ยวกับการพัฒนา รายงานนี้ชี้ว่าทางออกที่เป็นไปได้เเก่การลดลงของความหลากหลายทางนิเวศวิทยานี้ รวมถึงการเพิ่มการสร้างพื้นที่อนุรักษ์ให้มากขึ้น การฟื้นฟูพื้นสภาพธรรมชาติที่เสื่อมโทรม เเละทบทวนนโยบายการให้ความช่วยเหลือภาครัฐที่ส่งเสริมการเกษตรกรรมแบบไม่ยั่งยืน

โรเบิร์ต วัตสัน ประธาน IPBES กล่าวว่า ยังไม่สายเกินไปที่จะหยุดยั้งการลดลงของความหลากหลายทางนิเวศวิทยาเเละแก้ไขปัญหานี้

(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)