ธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank – ECB) ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของตนขึ้นอีก 0.25% ตามคาดในวันพฤหัสบดี พร้อมประกาศหยุดการต่ออายุตราสารหนี้ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้น ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
ECB ซึ่งบริหารนโยบายการเงินให้กับประเทศสมาชิก 20 ประเทศซึ่งใช้เงินสกุลยูโรปรับขึ้นดอกเบี้ยของตนรวมกันแล้วถึง 3.75% นับตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมของปีที่แล้วมา ซึ่งนับเป็นช่วงที่มีการขึ้นดอกเบี้ยรวดเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ หลายฝ่ายเชื่อว่า ธนาคารกลางยุโรปจะยังคงเดินหน้าปรับเร่งนโยบายดอกเบี้ยต่อไป เนื่องจากแรงกดดันของอัตราค่าแรงและเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวจากเพิ่มขึ้นครั้งละ 0.5% ที่เกิดขึ้นติดต่อกัน 3 ครั้งในการประชุม ECB และเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังข้อมูลธุรกิจธนาคารของประเทศในกลุ่มยูโรโซนแสดงให้เห็นว่า ความต้องการเงินกู้ในประเทศเหล่านี้ร่วงหนักที่สุดในรอบกว่าทศวรรษไปแล้ว
รอยเตอร์รายงานว่า ECB ไม่ได้เปิดเผยแนวทางการทำงานของตนต่อจากนี้ โดยแถลงการณ์ของธนาคารระบุว่า “สภากรรมการจะเดินหน้าทำงานโดยเน้นการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อกำหนดระดับและระยะเวลาของ[นโยบายการเงิน] แบบเข้มงวดต่อไป” และว่า “การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอ้างอิงการประเมินภาพรวมเงินเฟ้อ ท่ามกลางการหลั่งไหลเข้ามาของข้อมูลด้านการเงินและการเศรษฐกิจ พลวัตของสภาวะเงินเฟ้อ และความแรงของการส่งผ่านด้านนโยบายการเงิน”
การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ ECB ในวันพฤหัสบดีนี้ เกิดขึ้นหลังระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นดอกเบี้ยของตนอีก 0.25% ในวันพุธ และเป็นไปตามทิศทางเดียวกับธนาคารกลางขนาดใหญ่ส่วนใหญ่ทั่วโลกด้วย
- ที่มา: รอยเตอร์