ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Federal Reserve (Fed) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ในวันพุธ พร้อมส่งสัญญาณว่าอาจหยุดใช้มาตรการขึ้นดอกเบี้ยในคราวหน้าหลังจากเพิ่มขึ้นมา 10 ครั้งติดต่อกัน
หลังการประกาศในวันพุธ อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 5% - 5.25% ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 16 ปี และจะมีผลให้ต้นทุนการกู้ยืมเงินของผู้บริโภคในอเมริกาสูงขึ้น
ผู้กำหนดนโยบายของ Fed ระบุด้วยว่า จะจับตามองว่า มาตรการขึ้นดอกเบี้ยต่อไปยังจำเป็นหรือไม่ในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภคในสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 5% เมื่อเดือนมีนาคม ลดลงจากระดับสูงสุดที่ 9.1% เมื่อเกือบหนึ่งปีก่อน แต่ยังคงสูงกว่าระดับ 2% ที่ Fed ต้องการให้เป็น
เจอโรม พาวเวลล์ ประธานระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ยังไม่มีการตัดสินใจหยุดขึ้นดอกเบี้ยในวันนี้
อย่างไรก็ตาม การ "จับตาและรอดู" ถือเป็นการปรับเปลี่ยนนโยบายของ Fed ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมาซึ่ง Fed ย้ำมาตลอดว่าการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็นในการควบคุมเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงฟื้นตัวอย่างเข้มแข็งจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 บริษัทต่าง ๆ จ้างงานอย่างต่อเนื่องเดือนละหลายแสนตำแหน่ง ขณะที่ อัตราการว่างงานอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี
ถึงกระนั้น ความวุ่นวายจากการล้มลงของธนาคารขนาดใหญ่ 3 แห่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนต่อตลาดการเงินในอเมริกาและสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนจำนวนมาก จนเกิดความหลาดกลัวว่า เศรษฐกิจอเมริกันอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ภายในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
- ที่มา: วีโอเอ