เงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคมแทบไม่ขยับ เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงและอาหารที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา แต่ราคาค่าเช่าที่พุ่งสูงขึ้นยังดันเงินเฟ้อไปต่อในเดือนนี้ ขณะที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าทิศทางเงินเฟ้อล่าสุดยังจะเป็นหนึ่งในปัจจัยให้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อไปในเดือนหน้า ตามรายงานของรอยเตอร์
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมีนาคม ปรับขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบเป็นรายเดือนปรับขึ้นเพียง 0.1% เท่านั้น อันเป็นผลจากราคาน้ำมันลดลง 4.6% ราคาสินค้าอาหารปรับลดลง 0.3% ซึ่งเป็นทิศทางราคาสินค้าที่ปรับลดครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ขณะที่ปัจจัยดันเงินเฟ้อในเดือนนี้คือราคาค่าเช่าที่ยังพุ่งสูงอยู่ ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 5.6% ในเดือนมีนาคม
ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมีนาคมที่ออกมา ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในการสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ที่จัดทำโดยรอยเตอร์ก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภค จะปรับขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และปรับขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในมุมมองของซาราห์ เฮาส์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Wells Fargo ระบุว่าเงินเฟ้อยังคงสูงสำหรับสายตาของเฟด และว่ามีแนวโน้มว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงต่อในหลายเดือนข้างหน้านี้
บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดว่าระบบธนาคากลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งในเดือนพฤษภาคม และคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยราว 0.25% ก่อนที่จะหยุดพักแผนการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วที่สุดของเฟดนับตั้งแต่ช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1980 ในเดือนมิถุนายนปีนี้ อีกทั้งยังคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้หากเศรษฐกิจอเมริกันเข้าสู่ภาวะถดถอย
- ที่มา: รอยเตอร์
