ร้านอาหารกรุงวอชิงตัน สู้วิกฤติโคโรนาไวรัสด้วยน้ำใจ

Your browser doesn’t support HTML5

DC Restaurants

หนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากนโยบาย Social Distancing คือบรรดาร้านอาหาร อย่างไรก็ดี มีหลายแห่งที่มองว่านี่คือโอกาสของการแสดงน้ำใจต่อสังคม

กรุงวอชิงตันเป็นอีกหนึ่งเมืองที่ได้รับคำสั่งให้ทุกธุรกิจร้านอาหารงดให้บริการพื้นที่ทานอาหารภายในร้าน ทำได้เพียงจำหน่ายอาหารสำหรับซื้อกลับไปทานที่บ้านเท่านั้น โดยทางรัฐหวังว่านี่จะเป็นวิธีชะลอการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19

หนังสือพิมพ์ The Washington Post ได้รายงานถึงบรรยากาศการรับมือทางธุรกิจสำหรับเจ้าของกิจการร้านอาหาร โดยหลายแห่งได้ใช้โอกาสนี้เป็นการตอบแทนคืนสู่สังคม มอบมื้ออาหารให้แก่เด็ก คนชรา ผู้ยากไร้ รวมถึงเจ้าหน้าที่พยาบาล ซึ่งหลายเรื่องราวได้สร้างความประทับใจ รวมถึงรอยยิ้มท่ามกลางวิกฤติเช่นนี้

Micheline Mendelsohn ผู้ช่วยประธานบริษัท Sunnyside Restaurant Group ที่เป็นเจ้าของร้าน We the Pizza ที่มีสาขาตั้งในกรุงวอชิงตัน เปิดเผยว่ายอดขายได้ตกลงราวร้อยละ 50 แต่เมื่อเร็วๆ นี้ เธอมีความคิดอยากช่วยสังคม โดยมอบอาหารมื้อเที่ยงให้แก่เด็ก โดยในเอกสารประชาสัมพันธ์กำหนดให้เด็กได้ทานมื้อเที่ยงฟรีหลังจากผู้ปกครองได้ซื้ออาหารภายในร้าน และจำกัดเด็กเพียง 2 คนต่อหนึ่งครอบครัว

แต่ Mendelsohn กระซิบบอกว่าในทางปฏิบัติ เงื่อนไขเหล่านี้มองข้ามได้ ทางร้านยินดีที่จะมอบมื้อเที่ยงให้กับทุกคนที่กำลังหิวโหย

ส่วนร้าน Little Sesame ที่อยู่ในกรุงวอชิงตันเช่นกัน Nick Wiseman ผู้ร่วมก่อตั้งได้กล่าวว่า “เราต้องการที่จะดูแลพนักงานของเราและทำอาหารมอบให้กับคนในชุมชนที่มีความจำเป็นมากที่สุด” โดยทางร้านได้ร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงผลกำไรอย่าง องค์กร Dreaming Out Loud เปิดโอกาสให้คนในบริเวณใกล้เคียงได้ร่วมสมทบทุน ก่อนที่ทางร้านจะนำเงินที่ได้ไปซื้อวัตถุดิบนำมาปรุงเป็นอาหารมอบให้กับผู้ยากไร้

นาย Mark Bucher เจ้าของร้าน Medium Rare ที่มีสาขาต่าง ๆ อยู่ในสามรัฐ เห็นว่าในสถานการณ์เช่นนี้เปรียบเสมือนน้ำครึ่งแก้ว จะมองว่าเป็นอุปสรรคหรือโอกาสก็ได้ เขาได้พิมพ์ข้อความผ่านสื่อโซเชียลอย่าง Twitter โดยที่ไม่ได้ปรึกษาทีมงานคนใด ในข้อความนั้นเขาประกาศว่า ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไปทุกคนที่ต้องกักตัวในบ้าน หรือจำเป็นต้องเลี่ยงการออกมาในที่ชุมชน ร้านของเขาจะจัดส่งอาหารไปให้แบบไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เขาจะรวบรวมคำร้องขอผ่านโซเชียลมีเดียและอีเมล์ในช่วงบ่าย ก่อนที่จะให้อาสาสมัครมาช่วยกระจายส่งอาหารในเวลา 5 โมงเย็น

ช่วงที่เริ่มโครงการนี้ นาย Bucher ได้ส่งอาหารไปได้ราว 60 มื้อ และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 180 มื้อต่อวันในเวลาอันใกล้

อีกเรื่องราวที่สร้างรอยยิ้ม มาจากร้าน Penguin Pizza ที่มีบุคคลไม่แสดงตัวโทรมาสั่ง พร้อมชำระเงินเพื่อให้ทางร้านนำพิซซ่า 10 ถาดไปส่งให้โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ ๆ เจ้าของร้าน Pamela Carthy ตัดสินใจไปส่งด้วยตนเอง และได้เห็นว่าพยาบาลที่ได้รับน้ำใจครั้งนี้ตื้นตันมากแค่ไหน เธอจึงนำเรื่องราวดังกล่าวมาบอกต่อในโลกโซเชียลทำให้มีหลายคนโทรเข้ามาที่ร้าน

เธอและเพื่อนได้เปิดเว็บไซต์ที่ชื่อ FeedingTheFrontLine เพื่อเป็นการเชิญชวนคนที่สนใจสามารถสั่งอาหารให้ไปส่งให้กับบุคคลที่ทำหน้าที่เพื่อสาธารณะ หรือผู้ที่กำลังลำบากจากสถานการณ์ปัจจุบัน

แม้ปัจจุบันจะยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบ ความเสียหายต่อธุรกิจร้านอาหารในประเทศสหรัฐฯ แต่วันนี้เราได้เห็นมุมมองที่สวยงามจากการหยิบยื่นน้ำใจของคนในสังคมท่ามกลางวิกฤติ