ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกเกินหลักหนึ่งล้านคนแล้วและมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกอย่างน้อย 33.2 ล้านคนนั้น นายอันโตนิโอ กูเทอเรซ เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติได้แสดงความเสียใจเกี่ยวกับหลักหมุดหมายซึ่งสร้างความเจ็บปวดทรมานทั้งทางจิตใจและร่างกายดังกล่าวและเรียกร้องให้โลกร่วมมือกันเพื่อเอาชนะปัญหาที่ว่านี้รวมทั้งเรียนรู้จากความผิดพลาดที่ผ่านมาด้วย
ทั้งนี้ เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติกล่าวด้วยว่า ผู้นำที่มีความรับผิดชอบนั้นมีความสำคัญรวมทั้งวิทยาศาสตร์กับความร่วมมือก็มีความสำคัญเช่นกัน และว่าข้อมูลที่ผิดพลาดบิดเบือนนั้นทำให้มีการเสียชีวิตได้
อย่างไรก็ตาม นายไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลกกล่าวว่าตัวเลขอย่างเป็นทางการที่รายงานนี้อาจจะต่ำกว่าความเป็นจริงได้ทั้ง
ในแง่จำนวนผู้ติดเชื้อหรือผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ และรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วโลกกว่าหนึ่งล้านคนดังกล่าวนี้มีขึ้นขณะที่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าการระบาดของโควิด-19 กำลังหวนกลับมาเป็นรอบสองในหลายประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ เองซึ่งขณะนี้มีผู้ติดเชื้อกว่า 7 ล้าน 1 แสนคนและเสียชีวิตไปแล้วกว่า 2 แสน 5 พันคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นครนิวยอร์กซึ่งเคยมีการระบาดอย่างหนักในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนนั้น ขณะนี้ มีรายงานการระบาดซ้ำสองในหลายพื้นที่ของเมืองโดยเฉพาะในบางส่วนของเขตบรู๊คลินและควีนส์ โดยตัวเลขการระบาดของโควิด-19 ในนครนิวยอร์กรอบใหม่นี้มีขึ้น ขณะที่ทางผู้บริหารของเมืองกำลังเตรียมจะอนุญาตให้นักเรียนโรงเรียนรัฐบาลกลับไปเข้าโรงเรียนได้อีกครั้งในสัปดาห์นี้
ขณะเดียวกัน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคหรือ CDC ของสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานที่แสดงว่าอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มเด็กอายุ 12 ถึง 17 ปีสูงกว่าในเด็กกลุ่มอายุ 5 ถึง 11 ปีราวหนึ่งเท่าตัว อย่างไรก็ตาม สถิติที่ว่านี้มาจากตัวเลขซึ่งรวบรวมระหว่างที่นักเรียนหยุดพักช่วงฤดูร้อนและไม่ได้ไปโรงเรียนซึ่งก็อาจหมายถึงว่า อัตราการติดเชื้อในระดับต่ำในหมู่เด็กนักเรียนเป็นผลมาจากการตรวจเลือดหาเชื้ออย่างไม่ทั่วถึงเพียงพอ
ศูนย์ CDC เตือนด้วยว่าเด็กที่มีอายุน้อยมักมีอาการไม่รุนแรงหรือติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการและอาจเป็นเหตุผลที่ช่วยอธิบายว่าเหตุใดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด 19 ซึ่งได้รับการยืนยันในกลุ่มเด็กและวัยรุ่นนั้นจึงยังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ