จีนสร้างกำแพงกั้นเวียดนามสกัดผู้ลี้ภัยทางเศรษฐกิจและนักเล่นคาสิโน

China Vietnam Border Wall

Your browser doesn’t support HTML5

China Vietnam Wall

เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ผู้สื่อข่าวของ Radio Free Asia รายงานว่าเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของจีนในมลฑลกวางสีเริ่มสร้างกำแพงสูงสองเมตรตามแนวพรมแดนยาว 1,300 กิโลเมตรด้านที่ติดกับเวียดนามเพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงาน สินค้าเถื่อน รวมทั้งเงินทุนที่นักเล่นคาสิโนพยายามนำออกนอกประเทศ

มณฑลกวางสีซึ่งอยู่ทางใต้ของจีนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นที่ตั้งของเมืองกุ้ยหลินอันเลื่องชื่อด้วย แต่รายงานที่ว่าจีนกำลังสร้างกำแพงสูง 2 เมตรตามแนวพรมแดนด้านตะวันตกเฉียงใต้ความยาวราว 1,300 กิโลเมตรส่วนที่ติดกับเวียดนามเพื่อป้องกันการลักลอบข้ามพรมแดน ทำให้นักวิเคราะห์เชื่อว่าจีนกำลังมีปัญหาเศรษฐกิจของตัวเอง และการลักลอบขนสินค้าข้ามพรมแดนก็เป็นปัญหาที่ทั้งสองประเทศยากจะควบคุมด้วย

อาจารย์อเล็กซานเดอร์ วูวิง จากศูนย์ศึกษาความมั่นคง Daniel K. Inouye Asia-Pacific Center ในรัฐฮาวาย เชื่อว่ากำแพงดังกล่าวจะเป็นเครื่องมืออย่างดีของเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นในมณฑลกวางสี เพื่อใช้ควบคุมทุกอย่างที่สามารถข้ามพรมแดนได้ เพราะสำหรับจีนนั้นปัญหาเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19 ทำให้ความต้องการสินค้าที่ผลิตในประเทศลดลง และคนงานของจีนที่ตกงานมากขึ้นก็กำลังพยายามหางานในที่ใหม่

แต่ขณะที่คนงานของจีนกำลังประท้วงเรื่องการจ่ายค่าแรงที่ล่าช้า การถูกลดเงินเดือน หรือการถูกปลดจากงานเนื่องจากนายจ้างต้องลดการผลิตลงหรือต้องเลิกกิจการนั้นรัฐบาลกรุงปักกิ่งก็ไม่ต้องการให้ชาวจีนเดินทางข้ามพรมแดนเข้าไปหางานใหม่ทำในเวียดนามโดยไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน

ในส่วนของเวียดนาม ขณะนี้เวียดนามก็กำลังมีปัญหาคนว่างงานอย่างน้อยถึงราว 900,000 คนและอีกราว 18,000,000 คนมีการจ้างงานต่ำกว่าระดับ อย่างไรก็ตามสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ในช่วงรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้นักธุรกิจจีนไปลงทุนสร้างโรงงานในเวียดนามมากขึ้นเพื่อเลี่ยงกำแพงภาษีจากสหรัฐฯ หากต้องส่งสินค้าเหล่านั้นออกจากประเทศจีนโดยตรง และโรงงานของชาวจีนดังกล่าวก็ต้องการจ้างแรงงานจากจีนมากกว่าแรงงานในเวียดนามด้วย

แต่นอกจากความต้องการสกัดกั้นไม่ให้แรงงานของจีนเดินทางข้ามพรมแดนเข้าไปหางานใหม่ทำในเวียดนามโดยไม่รับอนุญาตแล้ว เป้าหมายอื่นของรัฐบาลจีนในการสร้างกำแพงที่ว่านี้คือเพื่อขัดขวางการหลบหนีของผู้เห็นต่างทางการเมือง รวมทั้งเพื่อยับยั้งการไหลออกของเงินทุนโดยนักเล่นคาสิโนด้วย

โดยจีนก็ใช้วิธีสร้างกำแพงตามแนวพรมแดนด้านที่ติดกับเมียนมาเช่นกัน เพราะเป็นที่ทราบกันว่าเมียนมาเปรียบเสมือนสวรรค์ของนักพนันชาวจีนเลยทีเดียว

และถึงแม้เวียดนามกับจีนจะมีความบาดหมางในความสัมพันธ์จากกรณีพิพาทเรื่องดินแดนในทะเลจีนใต้ก็ตาม แต่ในด้านการค้าแล้วรัฐบาลของทั้งสองประเทศทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อปราบปรามการลักลอบขนสินค้าข้ามพรมแดนเพราะเป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจร่วมกันอยู่ โดยสินค้าที่มักถูกลักลอบส่งออกจากเวียดนามไปยังจีน คือไม้สงวนและสัตว์ป่าพันธุ์หายาก ในขณะที่สินค้าอุปโภคและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ก็จะถูกลักลอบนำข้ามพรมแดนจากจีนไปขายในเวียดนามเช่นกัน

ขณะนี้จีนเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม โดยมูลค่าการค้าในช่วง 10 เดือนแรกของปีที่แล้วสูงถึงราว 1 แสนล้านดอลลาร์ และจีนก็อยู่ในฐานะที่ได้เปรียบดุลการค้าด้วย

แต่นอกจากการสร้างกำแพงโดยทางการจีนเพื่อสกัดกั้นแรงงาน สินค้าเถื่อนและเงินทุนซึ่งนักพนันลักลอบนำข้ามพรมแดนเข้าไปในเวียดนามแล้ว รัฐบาลเวียดนามเองก็ได้ตั้งจุดตรวจ 16 จุดตามแนวพรมแดนที่ติดกับจีนเช่นกัน โดยวัตถุประสงค์หลักนอกจากเพื่อขัดขวางการลอบส่งสินค้าผิดกฏหมายจากจีนเข้าไปขายในเวียดนามแล้ว รัฐบาลกรุงฮานอยก็ยังต้องการทำให้แน่ใจได้ว่าจะสามารถตรวจสอบและกักตัวผู้เดินทางข้ามพรมแดนไม่ให้นำเชื้อโควิด-19 เข้าไปแพร่กระจายในประเทศของตนด้วย