รัฐบาลจีนส่งคำขอไปยังฟิลิปปินส์อีกครั้งในวันอังคารให้ถอนสมอเรือรบสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งปลดระวางและเปลี่ยนมาเป็นจุดทำการทางทหารที่บริเวณสันดอนในพื้นที่ทะเลจีนใต้ที่เป็นจุดพิพาทระหว่างกัน หลังกรุงมะนิลาปฏิเสธคำร้องก่อนหน้านี้ไปแล้ว
คำร้องล่าสุดจากกรุงปักกิ่งมีออกมาเพียง 3 วันหลังเรือยามฝั่งของจีนใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงยิงสกัดเรือขนส่งของกองทัพเรือฟิลิปปินส์ไม่ให้ไปยังสันดอน Second Thomas เพื่อนำส่งเสบียงและทำให้กรุงมะนิลาออกมาประณามทันที
SEE ALSO: ฟิลิปปินส์ประณามจีน ใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงสกัดเรือตนในทะเลจีนใต้กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ฟิลิปปปินส์ทำการถอนเรือลำดังกล่าวออกจากสันดอนที่ว่านี้ทันทีและประกาศเปลี่ยนสถานภาพของพื้นที่นั้นให้กลับมาเป็นบริเวณที่ไม่ได้เป็นอาณาเขตของประเทศใดดังก่อนหน้าด้วย
เมื่อวันจันทร์ โจนาธาน มาลายา โฆษกของสภาความมั่นคงแห่งชาติฟิลิปปินส์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ฟิลิปปินส์ “จะไม่ทอดทิ้งจุดทำการ(ทางทหาร)ของตนเองบนสันดอนอายูงินเป็นอันขาด”
ชื่อ “อายูงิน” นั้นป็นชื่อภาษาตากาล็อกที่ฟิลิปปินส์ใช้เรียกสันดอน Second Thomas ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ (exclusive economic zone) ของฟิลิปปินส์และเป็นที่ประจำการของเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนหนึ่งซึ่งใช้ชีวิตอยู่บนเรือ Sierra Madre ที่ปลดระวางไปเมื่อปี ค.ศ. 1999 เพื่อใช้ตอกย้ำคำกล่าวอ้างพื้นที่ดังกล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่งของตน
ที่ผ่านมา กรุงมะนิลากล่าวหาหน่วยงานยามฝั่งจีนหลายต่อหลายครั้งว่า พยายามปิดกั้นภารกิจนำส่งเสบียงไปยังทหารของตนบนสันดอนอันเป็นจุดพิพาทนี้ ดังเช่นที่เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่ จีนยืนยันเสมอมาว่า การที่ฟิลิปปินส์เข้าครอบครองสันดอนแห่งนี้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย
และในวันอังคาร กระทรวงกลาโหมจีนออกมาเรียกร้องให้กรุงมะนิลายุติการกระทำ “อันเป็นการยั่วยุ” ทั้งหมดและประกาศมันที่จะเดินหน้ามาตรการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยและสิทธิทางทะเลของตน
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและฟิลิปปินส์ตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ขึ้นนำรัฐบาลและแสดงจุดยืนกลับไปใกล้ชิดกับสหรัฐฯ ที่สนับสนุนตนในประเด็นพิพาทกับจีนอีกครั้ง
สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐฯ ว่า “ทำการรวบรวม” พันธมิตรต่าง ๆ เพื่อ “ปลุกกระแส” ประเด็นทะเลจีนใต้และกรณีการเผชิญหน้าของเรือจีนและฟิลิปปินส์เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยออกแถลงการณ์ในวันอังคารที่ระบุว่า “ทะเลจีนใต้ไม่ใช่ ‘สวนสัตว์ซาฟารี’ สำหรับประเทศอื่น ๆ นอกภูมิภาคที่จะใช้สร้างความเสียหายและหว่านเมล็ดเพาะพันธุ์ความขัดแย้ง”
- ข้อมูลบางส่วนมาจากรอยเตอร์และเอเอฟพี