จีนและเวียดนามร่วมลงนามในข้อตกลง 14 ฉบับในวันจันทร์ ครอบคลุมตั้งแต่การสร้างรางรถไฟข้ามพรมแดนไปจนถึงการซื้อขายเนื้อจระเข้ หลังการพบหารือกันของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และประธานาธิบดีเวียดนาม โต แลม ที่กรุงปักกิ่ง
ปธน.แลม ซึ่งเพิ่งได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามคนใหม่เมื่อต้นเดือนนี้ เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งในวันจันทร์ เพื่อส่งสัญญาณการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้านสองประเทศ ท่ามกลางความขัดแย้งเรื่องกรรมสิทธิ์ทับซ้อนในทะเลจีนใต้
ภายหลังการพบกัน ปธน.สี กล่าวว่า "จีนถือว่าเวียดนามคือความสำคัญอันดับต้น ๆ มาตลอดในการสานสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศเพื่อนบ้าน และสนับสนุนเวียดนามในการยึดมั่นต่อผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ เดินตามแนวทางแห่งสังคมนิยมที่เหมาะสมกับสภาพการณ์ของประเทศ ตลอดจนการเดินหน้าปฏิรูปและสร้างระบบสังคมนิยมที่ทันสมัย"
ด้านปธน.แลม กล่าวถึงความสัมพันธ์กับจีนว่า "เป็นภารกิจสำคัญที่สุดด้านนโยบายต่างประเทศของเวียดนาม" และเรียกการเยือนจีนครั้งนี้ว่าเป็น "การยืนยันคุณค่าความสัมพันธ์กับจีน"
ทั้งสองประเทศต่างร่วมลงนามในเอกสารการค้าการลงทุนหลายฉบับ ตั้งแต่การศึกษาโครงการก่อสร้างรางรถไฟเชื่อมระหว่างจีนกับเวียดนามซึ่งมีการลงนามในเบื้องต้นในช่วงที่ประธานาธิบดีสีเดินทางเยือนกรุงฮานอยเมื่อเดือนธันวาคม
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว จะมีโครงการก่อสร้างรางรถไฟ 3 ช่วงเชื่อมต่อระหว่างเมืองหล่าวกายในเวียดนามไปยังเมืองไฮฟอง และนครเสินเจิ้นในประเทศจีน
ปัจจุบัน ทั้งสองประเทศมีรางรถไฟสองเส้นทางที่เชื่อมต่อภาคใต้ของจีนกับกรุงฮานอย แต่เป็นรางรถไฟเก่าตั้งแต่สมัยที่เวียดนามอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส และแตกต่างกับรางรถไฟความเร็วสูงของจีน ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนขบวนรถไฟที่ชายแดนของสองประเทศสำหรับการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร
คาดว่าการปรับปรุงรางรถไฟในส่วนของเวียดนามจะช่วยเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศได้มากขึ้น เนื่องจากมีบริษัทจีนจำนวนมากที่ย้ายฐานการผลิตไปยังเวียดนามซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่า
นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังร่วมลงนามในข้อตกลงด้านการเงิน สุขภาพ สื่อสารมวลชน ตลอดจนการซื้อขายสินค้าการเกษตร เช่น มะพร้าว ทุเรียน และเนื้อจระเข้
โต แลม ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเวียดนามเมื่อเดือนพฤษภาคม และตำแหน่งเลขาธิการใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ซึ่งถือเป็นตำแหน่งทางการเมืองสูงสุดของเวียดนาม หลังการอสัญกรรมของเหงียน ฟู จ่อง อดีตเลขาฯ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามคนที่แล้ว เมื่อเดือนกรกฎาคม
- ที่มา: รอยเตอร์