ซีดีซี คาดยอดติดเชื้อโควิด-19 ในอเมริกาอาจสูงกว่ารายงานหลายสิบเท่า

Coronavirus in US

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ CDC เผยผลตรวจแอนติบอดีชาวอเมริกัน พบว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอเมริกาที่แท้จริงอาจมากกว่าที่รายงานหลายสิบเท่าตัว

ทาง CDC ย้ำยืนยันการค้นพบนี้อีกครั้งเมื่อวันอังคาร ในวารสารการแพทย์ JAMA Internal Medicine ศึกษาผลการตรวจแอนติบอดีเพื่อหาตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดที่แท้จริงในสหรัฐฯ โดยเก็บตัวอย่างเลือด 16,000 คนทั่วประเทศ พบว่า อัตราการติดเชื้อที่แท้จริงในสหรัฐฯ มากกว่าตัวเลขที่รายงานราว 6-24 เท่าตัว

นอกจากนี้ ยังพบว่า ในรัฐคอนเนคติคัต ฟลอริดา ลุยเซียนา มิสซูรี มหานครนิวยอร์ก ยูทาห์ และวอชิงตัน มีอัตราการติดเชื้อมากกว่าที่รายงาน 10 เท่าตัว ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีอาการเล็กน้อยหรือผู้ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ

สำหรับสถานการณ์ในสหรัฐฯ ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แอนดรูว์ คูโอโม ทวีตเมื่อวันอังคาร ระบุให้ผู้ที่เดินทางเข้ารัฐนิวยอร์กใน 31 รัฐจาก 50 รัฐทั่วอเมริกา ต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน

ขณะที่ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ฟลอริดา และจอร์เจีย พื้นที่ระบาดหนักของโควิด-19 ในอเมริกา ปะทะกับนักการเมืองระดับรัฐอีกครั้ง หลังความพยายามที่ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19

โดยผู้ว่าการรัฐจอร์เจียยังยืนยืนที่จะยับยั้งแผนการบังคับให้สวมหน้ากากในที่สาธารณะ ส่วนผู้ว่าการรัฐเท็กซัส เดินหน้าขัดขวางการกลับมาบังคับใช้มาตรการ Stay at home order ในรัฐเท็กซัส โดยอ้างว่ามาตรการที่มีอยู่ทั้งการสวมหน้ากากและรักษาระยะห่างทางสังคมนั้นเพียงพออยู่แล้วสำหรับการเปิดเศรษฐกิจอย่างปลอดภัย

ด้านรัฐฟลอริดา สหภาพครูในฟลอริดายื่นฟ้องผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ให้ระงับแผนการเปิดการเรียนการสอนในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จากตัวเลขผู้ติดเชื้อในฟลอริดาที่พุ่งสูงกว่า 1 หมื่นรายทุกวันต่อเนื่อง 6-7 สัปดาห์แล้ว ที่สำคัญยังพบว่า 19% ของผู้ที่ติดโควิด-19 มาแล้ว กลับมาติดเชื้อซ้ำ สร้างความกังวลถึงการระบาดภายในชุมชนที่หนักขึ้นเรื่อยๆ ตามรายงานของรอยเตอร์