ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ฉายเดี่ยวในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 รายวันที่ทำเนียบขาวอีกครั้งในรอบหลายเดือน หลังสถานการณ์การระบาดในสหรัฐฯยังน่ากังวล ด้วยยอดติดเชื้อทั่วอเมริกาพุ่งเกือบ 4 ล้านคนทั่วประเทศ
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคารว่าสถานการณ์โควิด-19 ในสหรัฐฯ อาจจะต้องเลวร้ายกว่านี้ก่อนจะกลับมาดีขึ้น และแนะให้ประชาชนสวมหน้ากากหากไม่สามารถรักษาระยะห่างทางสังคมได้ แต่กลับแบ่งรับแบ่งสู้เมื่อถูกถามว่าผู้นำสหรัฐฯ จะใส่หน้ากากตามที่แนะนำประชาชนไปหรือไม่
การกลับมาแถลงข่าวโควิด-19 รายวันของทำเนียบขาว ที่ผู้นำสหรัฐฯ จะคอยตอบคำถามผู้สื่อข่าวรายวันนี้ มีขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่าคะแนนนิยมในตัวประธานาธิบดีทรัมป์ ร่วงลงนับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา และมีรายงานว่าที่ปรึกษาและทีมหาเสียงทรัมป์เสนอให้ประธานาธิบดี สื่อสารกับประชาชนเรื่องการรับมือกับโรคระบาดให้มากขึ้นกว่าเดิม
ครั้งล่าสุดที่ผู้นำสหรัฐฯ ขึ้นรายงานสถานการณ์โควิด-19 คือเมื่อปลายเดือนเมษายน และเป็นประเด็นใหญ่เมื่อผู้นำสหรัฐฯ พูดถึงการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อเข้าสู่ร่างกายและการอาบแสงอัลตราไวโอเล็ต เพื่อสกัดกั้นการระบาดของโคโรนาไวรัส เรียกเสียงวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขอย่างมาก
แต่เดิมทีมรับมือโควิด-19 ประจำทำเนียบขาว นำทีมโดยรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ นพ.แอนโธนี เฟาชี และพญ.เดบอราห์ เบิร์กซ เป็นผู้คอยช่วยตอบคำถามผู้สื่อข่าวระหว่างการแถลงสถานการณ์โควิดรายวันด้วย แต่ในวันอังคารกลับมีเพียงผู้นำสหรัฐฯ ที่ฉายเดี่ยวแถลงการณ์และตอบคำถามผู้สื่อข่าวตลอดครึ่งชั่วโมง
ก่อนหน้านี้ ผู้นำสหรัฐฯให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟอกซ์ พาดพิงถึง นพ.เฟาชี ว่าเป็นคนขี้กังวลตระหนกตกใจง่าย บวกกับเมื่อวันอังคาร นพ.เฟาชี ให้สัมภาษณ์ว่าตนไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการแถลงสถานการณ์โควิด ยิ่งสร้างประเด็นถึงความบาดหมางระหว่างผู้นำสหรัฐฯกับทีมรับมือโควิดแห่งทำเนียบขาวในช่วงที่ผ่านมา
ตัวเลขล่าสุดในสหรัฐฯ ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อเกือบ 4 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 1.4 แสนคน ตามรายงานของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์
